คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรให้คนเป็นโรคซึมเศร้า

คำพูดต้องห้ามที่ไม่ควรให้คนเป็นโรคซึมเศร้า

ในสถานการณ์ปกติที่คนเราได้มาเห็นใครที่มีท่าทางซึมเศร้า ผิดหวัง หรือเสียใจก็มักจะต้องหาวิธีเข้าไปปลอบใจสารพัดซึ่งเพียงไม่นานเขาก็หายแล้ว แต่สำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้านั้น การจะทำให้เขาหายจากอาการซึมเศร้าที่เป็นเรื้อรังมาได้ก็ย่อมยากเพราะโรคซึมเศร้าเป็นโรคที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของสารเคมีในสมอง มุมมองของคนเป็นโรคซึมเศร้าจึงมักจะมองทุกอย่างที่ห่างไกลไม่เบี่ยงเบนมาทางตัวเขาโดยตรงเป็นแง่ลบและดาวน์มากขึ้น การใช้คำพูดสำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้าจึงเป็นสิ่งสำคัญที่หลายคนควรรู้ว่ามีคำพูดใดที่เป็นคำพูดต้องห้ามสำหรับคนเป็นโรคซึมเศร้าบ้าง เพราะจะได้หาคำพูดอื่นช่วยให้เขาบรรเทาความเศร้าลงได้ ไม่ใช่ใช้คำพูดในแบบของคุณแล้วไปซ้ำเติมเขาอีก “สู้ ๆ” คำพูดต้องห้ามใช้สำหรับคนเป็นโรคซึมเศร้า แม้คำว่า “สู้ ๆ” จะเป็นหนึ่งในคำพูดให้กำลังใจยอดฮิตสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่มันกลับไม่ใช่สำหรับคนเป็นโรคซึมเศร้า เพราะนั่นหมายความว่าคุณไม่ได้จะให้กำลังใจเขาในการฝ่าฟันกับปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่ทำให้เขาซึมเศร้าอยู่สักนิด แต่มันเป็นการกระตุ้นให้เขาพยายามกับมันมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาก็ได้ตั้งใจและพยายามกับมันจนสุดกำลังจนเหนื่อยล้าชีวิตตัวเองเหลือเกิน เขาอดทนมามากแล้วมันยังไม่พออีกหรือ? ฉะนั้นคำพูดที่ถูกต้องก็คือ “เป็นกำลังให้นะ” ,“สักวันเรื่องร้าย ๆ มันก็จะผ่านไป” ,“เรายังอยู่ตรงนี้กับเธอ” “คนอื่นเจออะไรเยอะกว่าเธออีก” คำพูดต้องห้ามใช้สำหรับคนเป็นโรคซึมเศร้า “คนอื่นเจออะไรเยอะกว่าเธออีก” เป็นคำพูดที่คนปกติหากได้ยินมักจะมีกำลังใจในการฮึดสู้เพิ่มมากขึ้น ด้วยตามธรรมชาติของคนจะมองว่าเราเหนื่อยมากแล้ว แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้ท้อและชีวิตเจอมรสุมมากเท่ากับอีกหลายคน แค่นี้ทำไมจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ พวกเขายังอดทนมาจนถึงตอนนี้ได้เลย เราก็ต้องสู้กับมันจนกว่าจะชนะสิ แต่สำหรับคำพูดนี้กลับเป็นคำพูดต้องห้ามใช้สำหรับคนเป็นโรคซึมเศร้าเพราะจะทำให้เขามองว่าคุณไม่สามารถเป็นที่พึ่งพิงได้ เพราะไม่สามารถเข้าใจในความรู้สึกของเขาที่มันแตกต่างจากคนอื่นและมองว่าปัญหาเขามันไม่สำคัญสำหรับอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ควรใช้คำพูดแทนว่า “ถ้าไม่ไหวก็ร้องไห้ออกมาเถอะ”  “คิดมากไป” คำพูดต้องห้ามใช้สำหรับคนเป็นโรคซึมเศร้า “คิดมากไป” เป็นหนึ่งในคำพูดต้องห้ามใช้สำหรับคนเป็นโรคซึมเศร้า เพราะจะทำให้เขาคิดว่าในสายตาของผู้รับฟัง ปัญหาของเรามันไม่มีความหมายอะไรเลยใช่หรือไม่? หากมันไม่มีความหมายจริงเราก็คงไม่มาซึมเศร้าทุกข์ทรมานอยู่กับมันจนควบคุมให้หายได้ยากแบบนี้หรอก แถมคำพูดนี้ยังแสดงให้คนเป็นโรคซึมเศร้าฟังและรู้ได้ชัดเจนว่าคุณมองว่าการที่เขาซึมเศร้ากับเรื่องเหล่านี้เป็นเพียง “เรื่องไร้สาระ” […]

ก่อนการเสี่ยงครั้งยิ่งใหญ่ มาดูสิ่งที่ต้องทบทวนก่อนการตัดสินใจครั้งใหญ่

ก่อนการเสี่ยงครั้งยิ่งใหญ่ มาดูสิ่งที่ต้องทบทวนก่อนการตัดสินใจครั้งใหญ่

รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลองใช่ไหมละคะทุกคน เพราะชีวิตนั้นมีเรื่องให้เราต้องตัดสินใจอยู่ตลอดเวลากับทุกๆเรื่องเลย แต่ทุกการตัดสินใจนั้นถ้าการตัดสินใจของเราถูกต้องคงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่หากเราเกิดตัดสินใจผิดพลาดขึ้นมาละก็ ยิ่งเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ด้วย เช่นการเลือกคณะและมหาลัยที่จะเข้าเรียน การตัดสินใจเปลี่ยนที่ทำงาน หรือการไปต่างประเทศก็ตาม วันนี้เราจึงมีสิ่งที่ต้องทบทวนก่อนการตัดสินใจครั้งใหญ่มาฝากทุกคนกันค่ะ โดยสิ่งที่ต้องทบทวนก่อนการตัดสินใจครั้งใหญ่นั้น จะเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งให้เพื่อนๆได้ลองชั่งน้ำหนักดูก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไร เพราะบางครั้งแล้วนั้นการที่เราได้ตัดสินใจไปแล้วนั้น เราก็ไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีกครั้ง ยอมรับให้ได้หากผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่หวัง ทุกทางแยกก่อนการตัดสินใจเชื่อว่าไม่ได้มีแค่ซ้ายกับขวา แต่มันช่างมีหลายทางเหลือเกิน ดังนั้นแล้วก่อนที่เราจะตัดสินใจละก็ ขอให้ยอมรับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นตามมา ซึ่งอาจจะเป็นไปตามใจหวังของเรา หรือไม่เป็นไปตามใจหวังก็ตาม มีแผนสำรองไว้เสมอ ก่อนการตัดสินใจครั้งไหนไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม ไม่ว่าเราจะเลือกหนทางไหน สิ่งที่เราจะต้องมีอยู่เสมอนั่นคือแผนสำรอง เราควรคิดไตร่ตรองไว้ว่าหากผลที่ออกมาไม่เป็นไปตามใจหวัง เราจะมีวิธีแก้ไขและรับมือกับมันอย่างไรดี ศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม การศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมนั้นถือว่าเป็นการอุดรอยรั่วที่ดีมาก ยิ่งเราศึกษามากเท่าไหร่เราก็จะยิ่งมีความชำนาญในเรื่องนั้นๆมากขึ้น เราอาจจะไปพบกับข้อมูลบางอย่างที่สำคัญที่เราเผลอมองข้าม และมันช่วยให้การตัดสินใจของเรานั้นไม่ผิดพลาด หรือผิดพลาดน้อยที่สุด ไม่ตัดสินใจเรื่องใหญ่ๆตอนที่ไม่มีสติสัมปชัญญะเด็ดขาด ทุกการตัดสินใจสิ่งที่เราต้องมีมากที่สุดนั่นก็คือสติ เราต้องใช้สติในการคิดไตร่ตรองและทบทวนเป็นอย่างมาก แต่หากเราไม่มีสติละก็ มีความเป็นไปได้สูงมากที่เราจะเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ตัวเองต้องมเสียใจในภายหลังนั้น ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ควรทำหรือตัดสินใจในตอนที่ตัวเรานั้นมีสติสัมปชัญญะที่ครบถ้วนแล้วเท่านั้น เป็นยังไงกันบ้างคะกับสิ่งที่ต้องทบทวนก่อนการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่เราได้นำมาฝากทุกคนในวันนี้กัน ถึงแม้ว่าการตัดสินใจจะเป็นเรื่องยากในบางที แต่สุดท้ายแล้วเราทุกคนก็ต้องตัดสินใจเลือกทางใดทางหนึ่งอยู่ดี แต่ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าเราจะตัดสินใจอย่างไรเราก็ต้องเดินหน้าและลุยทำอย่างเต็มที่นะคะ #สิ่งที่ต้องทบทวนก่อนการตัดสินใจครั้งใหญ่

สิ่งที่ใช้จดบันทึกสำหรับคนขี้ลืม

สิ่งที่ใช้จดบันทึกสำหรับคนขี้ลืม

ทุกคนย่อมมีวันที่จะลืมในสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ว่าจะเพราะอยู่ด้วยภาวะที่สมองถูกใช้งานหนักเกินไปจนเลือนรางหรือเพราะบางคนที่เป็นคนขี้ลืมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวอยู่แล้วก็ตาม ถึงอย่างไรทุกคนก็ต้องมีสิ่งที่ใช้จดบันทึกเมื่อเกิดความขี้ลืมหนักเข้า เพราะมันจะช่วยให้คุณจำได้ว่าตัวเองต้องทำอะไรในวันนั้น ๆ หรือแม้แต่กิจยิบย่อยที่สำคัญก็ตาม วันนี้เราก็จะมาแนะนำทางเลือกที่ใช้ในการจดบันทึกสำหรับคนขี้ลืมกัน ขึ้นอยู่กับว่าใครสะดวกใช้อะไรและใช้กับสถานการณ์ไหนนะคะ ไดอารี่ช่วยป้องกันสำหรับคนขี้ลืม ไดอารี่เป็นทางเลือกในการจดบันทึกเพื่อเตือนความจำแบบคลาสสิกที่สุด เพราะคุณสามารถเลือกเขียนเตือนความจำในรูปแบบของตัวเองที่ทำให้คุณสามารถเข้าไปอ่านเพื่อจดจำได้ง่าย ๆ ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรตายตัวในหน้าสมุดเปล่า ๆ ที่คุณเขียน บางคนอาจจะถนัดเขียนเตือนความจำในไดอารี่เป็นรูปแบบตาราง บางคนก็อาจจะถนัดเขียนเตือนแบบบรรยายและวาดรูปประกอบให้เห็นภาพชัดเจน บางคนก็อาจทำในรูปแบบ Mind Mapping เป็นทางเลือกการเตือนความจำที่อิสระจริง ๆ ปฏิทินช่วยเตือนวันแห่งภารกิจสำหรับคนขี้ลืม ปฏิทินเป็นทางเลือกการเตือนความจำสำหรับคนขี้ลืมซึ่งมีความง่ายดายตรงที่ปฏิทินจะมีวันมาให้เป็นตารางอยู่แล้ว คุณก็แค่เข้าไปเขียนภารกิจหรือสิ่งที่ต้องทำในวันนั้น แต่ปฏิทินจะมีข้อจำกัดตรงที่มีพื้นที่เขียนเล็กน้อยเป็นแค่คำสั้น ๆ ไม่สามารถเขียนรายละเอียดยิบย่อยที่คุณจะจำเพิ่มเติมจากรายละเอียดหลักได้ เพราะช่องตัวเลขวันที่จะมีขนาดเล็ก และความเป็นส่วนตัวก็ยังน้อยอีกต่างหาก ด้วยหลายคนมักจะเขียนสิ่งที่ต้องทำลงในปฏิทินแบบแขวนในบ้านมากกว่า แม้จะมีระบบปฏิทินในโทรศัพท์มือถือแล้วก็ตาม ซึ่งคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็สามารถเห็นได้ แต่หากจะพกเป็นปฏิทินแบบตั้งโต๊ะพับได้ติดตัวไปทุกที่ก็ได้อยู่นะ เก๋ ๆ ดี ระบบแจ้งเตือนความจำด้วยเสียงสำหรับคนขี้ลืม ในโทรศัพท์มือถือของทุกคนจะมีระบบแจ้งเตือนความทรงจำอยู่ซึ่งคุณก็แค่เข้าไปพิมพ์สิ่งที่ต้องทำพร้อมรายละเอียดยิบย่อยต่าง ๆ พร้อมตั้งค่าวันและเวลาที่ต้องการให้เตือน จะตั้งค่าล่วงหน้านานเป็นสัปดาห์ เป็นเดือน หรือเป็นปีก็ได้หากคิวที่คุณต้องทำมันเยอะมาก ซึ่งเสียงเตือนก็เป็นสิ่งสำคัญเพราะหากตั้งเป็นเสียงที่เบาเกินไป คุณก็อาจไม่ได้ยิน เราแนะนำให้คุณตั้งเตือนในยามเช้าทดแทนนาฬิกาปลุกไปเลยจะดีที่สุด เพราะเมื่อคุณลืมตาตื่นขึ้นมาจะได้เข้าไปดูในโทรศัพท์และเห็นข้อความบันทึกป้องกันการลืมในวันนั้นได้เลย รูปภาพประกอบ : Pixabay #สิ่งที่ใช้จดบันทึกสำหรับคนขี้ลืม #ไอเดียสุดเจ๋ง #เคล็ดลับต่างๆ

“เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ด้านมืดของสังคมไทยที่สะท้อนผ่านสำนวน

“เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ด้านมืดของสังคมไทยที่สะท้อนผ่านสำนวน

เคยไหมที่พอเข้าไปในสถานที่ใหม่ๆ หรือได้ไปเที่ยวต่างเมืองแล้วคนที่คนรู้จักบอกว่าให้ทำตัวปกติ คนอื่นทำอะไรก็ให้ทำตามๆ กันไป จะได้อยู่ร่วมกันได้แบบไม่มีปัญหา ก็แค่ทำตามกัน ปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์เพียงเท่านี้ก็จบแล้ว ตามสำนวน “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ที่ดูเผินๆ เหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่ถ้าหากคิดในด้านมืดล่ะก็ พวกคุณอาจจะได้เห็นอะไรอีกเยอะ “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” หมายถึง “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” สำนวนนี้ใช้เปรียบเทียบการกระทำให้เข้ากับสังคม เข้ากับสถานที่ แต่ละที่ที่ได้เข้าไปสัมผัส หรือผู้คนที่คบหาสมาคม รู้จักการปรับตัวให้เข้ากับคนในแต่ละสังคมแต่ละที่ ไม่เช่นนั้นจะวางตัวลำบาก หรือไม่ได้รับการยอมรับ (อ้างอิงจาก : เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม ปฏิบัติตัวให้เข้ากับสถานที่. SiamEBOOK ) ยกตัวอย่างเช่น วัฒนธรรมในการแต่งตัว การกิน การพูด การวางตัวต่างๆ “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” ในด้านปกติ เรามาเริ่มต้นที่การตีความสำนวนไทยบทนี้ในแง่ปกติกันดีกว่า ก็ต้องยอมรับว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม” เป็นสำนวนสากลที่ไม่ได้มีแค่คนไทยใช้ แต่ต่างประเทศก็ใช้เหมือนกันคือสำนวนที่ว่า “When in Rome, do as the Romans do” […]

หยุดแก้ตัว…ปัญหาใหญ่ที่ดูเหมือนจะเล็ก 

หยุดแก้ตัว…ปัญหาใหญ่ที่ดูเหมือนจะเล็ก 

ในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์เป็นกลุ่มใหญ่ย่อมต้องมีกฎในการอาศัยร่วมกันอยู่แล้ว และปัญหาใหญ่ที่ดูเหมือนจะเล็กอย่างการแก้ตัวนั้นก็เป็นที่แพร่หลายมาในแต่ละบุคคล มนุษย์ย่อมมีสัญชาตญาณในการเอาชีวิตรอดอยู่แล้ว นั่นรวมไปถึงการปัดความผิดพลาดของตนเองให้คนอื่นด้วย ซึ่งแท้จริงแล้วปัญหาเหล่านี้พบได้อย่างแพร่หลายในแทบจะทุกกลุ่มของมนุษย์ ซึ่งการเรียนรู้ที่จะอาศัยอยู่ในชุมชนกลุ่มใหญ่ที่มีประสิทธิภาพนั้นก็ควรที่แก้ไขปัญหาในเรื่อง การแก้ตัว ให้ได้เสียก่อน 6 วิธีหลีกเลี่ยงนิสัยชอบแก้ตัว เรียนรู้และวิเคราะห์พฤติกรรมตนเอง  สังเกตจนเองว่าเคยปัดความผิดของตนเองและโยนให้ผู้อื่นบ่อยแค่มาน้อยแค่ไหน ยิ่งถ้าอยู่ในฐานะหัวหน้าหรือตำแหน่งที่ใหญ่ ซึ่งก็คงไม่มีใครอยากทำงานที่เจ้านายมีนิสัยชอบโยนความผิดให้กับลูกน้องของตนเอง เราจึงควรที่เรียนรู้และสังเกตพฤติกรรมของตนเอง ว่าเราเป็นคนประเภทนี้หรือไม่ กล้าที่จะรับและเผชิญหน้ากับความจริง หลังจากที่เราแน่ใจแล้วว่าเราเป็นคนที่มีนิสัยเสีย ในการชอบแก้ตัว เราควรที่จะเปิดใจยอมรับว่า เราอาจมีลักษณะนิสัยเป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่มีปัญหา อย่ามัวแต่วางตัวเฉย หรือปล่อยให้ปัญหาคลี่คลายตัวมันเอง จงเริ่มตนที่จะยอมรับและเปลี่ยนแปลงตนเอง ยอมรับคำวิจารณ์ของคนรอบข้าง  นอกจากยอมรับความจริงแล้ว ต้องกล้าที่ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ของบุคคลอื่นรอบตัวคุณด้วย การรับฟังนั้นไม่ยากและไม่เสียอะไร เราจึงควรจะที่หยุดฟังมากกว่าการพูดอย่างเดียว แต่ถึงกระนั้นก็อย่าปล่อยให้คำวิจารณ์เหล่านั้นมาทำลายความมั่นใจของเรา และไม่ควรเก็บเอาคำพูดของบุคคลอื่นมาใส่ใจมากจนเกินไป อย่ากลัวเสียหน้า อย่ากลัว และจงกล้าที่จะเสียหน้า เมื่อถึงเวลาต้องทำในที่ตรงข้ามกับที่เคยทำหรือเคยเป็น เมื่อเราทำผิดหรือประพฤติตัวไม่เหมาะสม ก็แค่แก้ไข ไม่มีช่วงอายุใดที่สายไปสำหรับการแก้ไขปรับปรุงตนเองให้ดีขึ้น สร้างมาตรฐานของคุณขึ้นมา เมื่อเริ่มตระหนักได้ว่าการแก้ตัวนั้นมีแต่ผลเสีย ก็ควรที่จะสร้างกฏเกณฑ์สำหรับตัวคุณเองขึ้นมาว่า ในช่วงแรกคุณสามารถหลุดออกนอกกรอบหรือนอกแถวได้ไม่เกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ถือว่าเป็นการปรับตัว ก่อนจะเข้าสู่ขั้น Advance ที่คุณจะไม่แก้ตัวอีกแล้ว เรียนรู้ที่จะกล่าวคำขอโทษโดยปราศจากข้อแก้ตัวพ่วงท้าย สุดท้าย การพูดขอโทษนั้นไม่เคยสร้างปัญหาอะไรให้ใคร มีแต่จะสร้างสิ่งที่ดีกว่าให้เรา การเรียนรู้ที่จะขอโทษโดยปราศจากคำแก้ตัวนั้นอาจทำยาก แต่เป็นการปรับปรุงตนเองได้อีกขั้นหนึ่งที่ท้าทายไม่น้อย  ดังนั้นการเรียนรู้ที่จะหยุดแก้ตัว […]

5 วิธีรับมือกับความผิดหวัง ที่เกิดขึ้นในชีวิต

5 วิธีรับมือกับความผิดหวัง ที่เกิดขึ้นในชีวิต

ในชีวิตของคนเรา มีเรื่องราวต่างๆ มากมาย สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาในชีวิต ทั้งความสุข ความทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เสมอ สิ่งที่จะทำได้คือการรู้เท่าทันสิ่งเหล่านี้ และหาวิธีรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้น วันนี้เรามีวิธีรับมือกับความผิดหวังมาฝากกัน จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ  1.สงบจิต สงบใจ และพยายามมองบวก  เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่คนเรานั้นจะรู้สึกหวั่นไหวเมื่อมีเรื่องราวต่างๆมากระทบกระเทือนจิตใจ เพราะเราเป็นมนุษย์มีความรู้สึก มิจิตใจ แต่หากเกิดเรื่องราวต่างๆขึ้นมา สิ่งแรกเราควรสงบจิตใจ เอาชนะความรู้สึกเศร้า  เสียใจนั้นให้ได้ และที่สำคัญควรมองทุดอย่างในแง่บวก อย่าคิดแต่ว่าเราสูญเสียอะไรไป แต่ควรคิดว่าเราได้อะไรจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อย่ามัวแต่โทษตัวเอง เพราะนั่นจะทำให้ไม่สามารถไปต่อได้ วนเวียนอยู่กับความรู้สึกเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา 2. ระบายความในใจออกมาเสียบ้าง  บางสิ่งบางอย่างมันอัดอั้น ตันใจ มากเกินกว่าที่จะเก็บความรู้สึกเอาไว้คนเดียวได้ ก็ลองระบายออกไปให้คนอื่นที่ไว้ใจ ฟังบ้าง บางครั้งเขาอาจไม่ได้ช่วยอะไรมาก แต่บางทีแค่มีใครสักคนรับฟัง ก็ช่วยให้ความทุกข์บรรเทาเบาบางลงได้ และคุณอาจจะได้คำแนะนำดีๆกลับมาปรับใช้ในชีวิตได้โดยไม่คาดคิดอีกด้วย  3. มองหาคุณค่าในตัวเอง ความผิดพลาด หรือความผิดหวังในชีวิต ไม่ได้เป็นตัวตัดสินว่าเราไร้ค่า คนทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเองด้วยกันทั้งสิ้น เรายังมีความสามารถทำอะไรต่างๆได้มากมาย อย่าดูถูกตัวเอง เพราะบางครั้งความผิดหวังเหล่านั้นอาจเกิดจากสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ ซึ่งนั่นไม่ใช่ความผิดของเราเสีย ท้อได้ แต่เพื่อพักให้หายเหนื่อย แล้วกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง สร้างพลังบวกให้กับตัวเองเยอะๆ […]

พาทำที่ให้อาหารไก่อัตโนมัติไม่ต้องเสียเวลาเดินมาให้เอง!

พาทำที่ให้อาหารไก่อัตโนมัติไม่ต้องเสียเวลาเดินมาให้เอง!

หลายคนที่เลี้ยงไก่คงเหนื่อยกับการที่ต้องแบกอาหารให้ไก่กันอยู่บ่อย ๆ ไม่น้อยเลย ยิ่งบางคนนั้นไม่ชอบเสียงไก่ที่จะดังโวกเวกทั้งวัน ก็สร้างเล้าไก่ไว้ค่อนข้างห่างจากตัวบ้านพอสมควร เดินไกลไปอีกจ้า แถมอาหารไก่ที่เราซื้อกันทีก็คงเป็นกระสอบเลย ต้องมายืนยกทุกวัน งานนี้ทั้งเดินทั้งยก ปวดแขนปวดขาตายเลย ส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย วันนี้เราจึงจะมา พาทำที่ให้อาหารไก่อัตโนมัติไม่ต้องเสียเวลาเดินมาให้เอง! กันจ้า ทำง่าย ไม่ยาก แถมให้ได้นานด้วยนะ โดยที่ให้อาหารไก่อัตโนมัติในวันนี้ ใช้อุปกรณ์และเวลาทำที่น้อยมาก ขั้นตอนการทำก็ไม่ซับซ้อน ใครที่กำลังมองหาไอเดียการทำที่ให้อาหารไก่อัตโนมัติอยู่เนี่ย พลาดไม่ได้เลยล่ะ อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการทำที่ให้อาหารไก่อัตโนมัติ -ขวดพลาสติก 1 ขวด ขนาดไม่ต้องขวดใหญ่มาก -ถังสี 20 ลิตร -กาวร้อน -ผงซักฟอก -ลวด -เครื่องมือช่างอื่น ๆ  ขั้นตอนการทำที่ให้อาหารไก่อัตโนมัติ 1.เจาะรูเป็นวงกลมที่ก้นถังสีขนาด 20 ลิตร ทั้งนี้ด้านความจุถัง ทุกคนสามารถใช้ความจุอื่น ๆ ได้ตามที่มีเลยจ้า ส่วนความกว้างของรูนั้น วัดจากขนาดความกว้างของตัวขวดน้ำพลาสติกเลย เอาให้สามารถใส่ได้ จากนั้นก็ตัดขวดน้ำพลาสติกทั้งที่ปากขวดและก้นขวดออก ให้กลายเป็นเหมือนท่อทรงกระบอก และตัดปลายด้านหนึ่งให้เว้าพอประมาณ 2 ฝั่งเลยทั้งซ้ายและขวาของด้านปลายด้านนั้น และบริเวณที่เจาะนั้น ทุกคนสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมเลย หากที่ให้อาหารไก่อยู่ตรงกลางเล้าไก่ ก็เจาะตรงกลางก้นถังที่ให้อาหารไก่อัตโนมัติ […]

แปลงร่างถาดไข่ให้กลายเป็นของใช้แสนสร้างสรรค์

แปลงร่างถาดไข่ให้กลายเป็นของใช้แสนสร้างสรรค์

คงมีหลายบ้านไม่น้อยที่ซื้อไข่มาทีก็เป็นแบบถาดใหญ่ ๆ ยิ่งบ้านใครเปิดร้านอาหารหรือร้านขนม คงมีถาดไข่กันเรียงรายเป็นภูเขาเลากา..หากไม่ได้ทิ้งน่ะนะ เพราะ ส่วนใหญ่ก็คงทิ้งกับไปเสียหมด ก็ไข่ในถาดมันหมดแล้ว เราจะเก็บไว้ใช้ทำอะไรล่ะ? เก็บไปคงมีแต่จะทำให้บ้านรก แต่ความคิดของทุกคนเกี่ยวกับถาดไข่จะต้องเปลี่ยนไป หากได้อ่าน “แปลงร่างถาดไข่ให้กลายเป็นของใช้แสนสร้างสรรค์” บอกเลยว่าเมื่อได้เห็นแต่ละไอเดียต้องมีคนไม่น้อยแน่นอนที่เห็นที่จะเก็บถาดไข่ของรอบนี้เอาไว้ทำสักไอเดียใดไอเดียหนึ่งที่ตนเองสนใจเกี่ยวกับถาดไข่ หากอ่านถึงตรงนี้ก็อาจจะหาว่าเกินจริง งั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าจ้า กล่องใส่ของจากถาดไข่ ไอเดียถาดไข่นี้เป็นไอเดียที่เหมาะกับการนำไปตกแต่งในห้องของเด็กอนุบาลหรือประถมมาก ๆ เพราะมีทั้งความน่ารักและสร้างสรรค์ เสริมสร้างจินตนาการแบบสุด ๆ แถมทำง่ายด้วนนะ เพียงหากระดาษมาแปะทำเป็นขอบให้ถาดไข่หรืออาจะหากล่องใส่ก็ได้ จากนั้นก็ตกแต่งเป็นรูปน่ารัก ๆ ตามใจเราเลย แถมไอเดียนี้ไม่ได้เพียงแค่นำไปใส่แต่ยังสามารถวางโชว์ได้ด้วยนะ ใครที่มีของชิ้นเล็กชิ้นน้อยเป็นของสะสมที่อยากโชว์แขก ๆ หรือตั้งโชว์ไว้เฉย ๆ ก็สามารถใช้เจ้าไอเดียถาดไข่นี้เป็นที่ใส่ก็ได้ แถมวัสดุอุปกรณ์ก็น้อยมาก ๆ สามารถทำได้หลายอันได้แบบสบาย ๆ เลย ใครที่มีความสนใจอยากจะลองทำ ก็สามารถลองทำดูก่อนก็ได้เพื่อมาดูผลลัพธ์ต่าง ๆ ว่าอยู่ในเกณฑ์เราโอเครึเปล่านั่นเองจ้า แจกันดอกไม้ทำง่ายด้วยถาดไข่ ไอเดียถาดไข่นี้ไม่เหมาะสำหรับดอกไม้ที่จะต้องมีการใส่น้ำลงไปในแจกันด้วยนะคะ เพราะ อย่างที่เรารู้กันดีว่าถาดไข่นั้นก็ทำมาจากกระดาษชนิดหนึ่งจึงมีคุณสมบัติซึมซับน้ำนั่นเอง เราแนะนำเป็นให้ใช้ใส่สำหรับพวกดอกไม้แห้งหรือดอกไม้ปลอม แต่ถ้าใครอยากใส่ดอกไม้สดจริง ๆ ก็อาจแก้ปัญหา โดยการนำภาชนะที่สามารถใส่น้ำได้มารองดอกไม้ไว้ข้างในแจกันถาดไข่ เท่านี้ก็สามารถวางไว้แล้วจ้า ไอเดียถาดไข่นี้เป็นไอเดียที่ง่ายมาก เพราะ เพียงแต่จัดถาดไข่ออกมาให้เรารู้สึกว่าเป็นขนาดที่โอเคสำหรับเราแล้วและนำมาต่อกัน ก็จะเสร็จแล้ว […]

ถังน้ำมันกับการกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์สุดคลาสสิค

ถังน้ำมันกับการกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์สุดคลาสสิค

ทุกคนอาจคงเห็นตามร้านคาเฟ่หรือร้านอาหารต่าง ๆ ที่มีการตกแต่งโซนเก้าอี้และโต๊ะจากถังน้ำมันหลากหลายสีกันมาแล้ว แล้วเคยมีความคิดอยากจะลองทำไว้ที่บ้านเองสักตัวมั้ยคะ? แต่แต่ละไอเดียนี้ อาจต้องใช้ความชำนาญในเรื่องของการช่างพอสมควร ใครที่มีความรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว สามารถทำได้สบาย ๆ เลยจ้า แต่สำหรับใครที่ไม่ใช่สายช่าง ก็สามารถแวะมาดูกันก่อนได้ โดย ถังน้ำมันเก่ากับการกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์สุดคลาสสิค ครั้งนี้นั้น จะเหมาะมากหากทุกคนที่มีความสนใจในเฟอร์นิเจอร์จากถังน้ำมัน มีถังน้ำมันเหลือใช้อยู่ที่บ้าน หรือ หากอยากทำจริง ๆ ไม่ที่บ้านก็ไม่ได้ข้องเกี่ยวกับอะไรประเภทนี้ ก็สามารถลองไปหาซื้อถังเปล่ามาลองทำดูกันได้นะ และเมื่ออุปกรณ์พร้อม ความสนใจ ความตั้งใจพร้อม เราก็ไปดูกันเลยว่ามีไอเดียอะไรบ้าง! ตู้เก็บของจากถังน้ำมัน ไอเดียนี้อาจจะเป็นไอเดียที่ง่ายที่สุดในนี้แล้วล่ะ ฮ่าฮ่า เพียงแค่ตัดด้านข้างของถังน้ำมันออก จากนั้นทำเป็นบานพับ และเพิ่มตรงที่สามารถจับเพื่อให้สามารถเปิดได้ง่ายสักหน่อย หรือใครที่มีทักษะการช่างอยู่มาก ก็อาจจะทำเป็นบ้านเลื่อน เปิดปิดไปเลยก็ได้นะ สะดวกไปอีกแบบ อาจหาอะไรมาใส่ทำเป็นชั้น ๆ ไว้ในตู้ถังน้ำมันด้วยก็เป็นไอเดียที่ไม่เลวเลย แต่หากใครที่จะทำไว้ใส่ของชิ้นใหญ่ ๆ ก็ไม่ต้องทำถังน้ำมันให้เป็นชั้น ๆ ก็ได้นะ เพราะการออกแบบแต่ละอย่างนั้น ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้สอยที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับ “ตัวเรา” นั่นเอง ไอเดียแรกนี้ บอกเลยว่าเป็นอีกไอเดียที่เก๋มาก ๆ และนอกจากจะใส่ของได้แล้ว ยังสามารถวางอะไรไว้บนฝาถังน้ำมันก็ได้ไปด้วย และไม่ต้องห่วงเลย เพราะถังน้ำมันนั้น […]

วิธีทำแอร์แบบ DIY ด้วยพัดลมในบ้าน

วิธีทำแอร์แบบ DIY ด้วยพัดลมในบ้าน

สวัสดีค่ะทุกคน เมืองไทยเราเนี่ย ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีสภาพอากาศเป็นแบบร้อนชื้น ทำให้รู้สึกอบอ้าวมาก ๆ ยิ่งช่วงเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายนที่อยู่ในช่วงของหน้าร้อนแบบเต็มตัว บอกเลยว่า ค่าไฟขึ้นกันแบบไม่พักเลยค่ะ เพราะ ไม่ให้เปิดแอร์เนี่ย ไม่ได้จริง ๆ และด้วยเหตุผลทั้งของสภาพอากาศและค่าไฟนี้เอง วันนี้เราจึงจะมาพาทุกคนมาทำ แอร์แบบ DIY กันจ้า แอร์แบบ DIY นี้ แม้จะเย็นไม่เท่าแอร์จริง ๆ แต่ก็ช่วยลดอุนณหภูมิได้ไม่น้อยเลย เรียกว่า อยู่ได้แบบสบาย ๆ ไม่ร้อน ไม่หนาวจนเกินไป ซึ่งขั้นตอนการทำก็ไม่ยากเลยจ้า คนที่ไม่ใช่ช่าง ไม่ใช่นักประดิษฐ์เนี่ย ทำได้สบายเลย เอาล่ะ เราไปทำแอร์แบบ DIY กันค่ะ!! วัสดุอุปกรณ์ของแอร์แบบ DIY วัสดุและอุปกรณ์ของการทำแอร์แบบ DIY เนี่ย น้อยมาก เรียกว่า มีเพียงไม่กี่อย่าง ราคาก็ประหยัดด้วยค่ะ โดยวัสดุและอุปกรณ์ที่ต้องใช้ในการทำแอร์แบบ DIY ก็จะมี พัดลม(แนะนำเป็นไซส์ที่มีขนาดค่อนข้างเล็กนะ),กล่องโฟมหรือกล่องพลาสติก สามารถหาได้ตามสะดวกเลยจ้า,น้ำแข็ง(ใช้เป็นหลอดหรือน้ำแข็งก้อนก็ได้),เกลือ(เพื่อทำให้จุดเยือกแข็งของน้ำแข็งต่ำกว่า0องศา จะได้เย็นมากและละลายได้ช้านั่นเองค่ะ),ขวดน้ำหรือท่อPVC ใช้ทำเป็นท่อเพื่อส่งให้ไอเย็นในกล่องไหลออกมาและสุดท้ายคือพวกปากกาเคมี คัตเตอร์ เอาไว้มาร์คจุดและเจาะรูค่ะ ทุกคนอาจเตรียมฟอยล์เอาไว้ด้วย […]