เคล็ดลับการเก็บมะนาวใช้ได้นานเป็นปี

เคล็ดลับการเก็บมะนาวใช้ได้นานเป็นปี

คุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหา เรื่องใช้มะนาวไม่ทัน เพราะเก็บไว้แล้วเน่า หรือเหลืองบ้างไหม ?มะนาวเป็นสินค้าทางการเกษตรที่มีราคาขึ้นลงหลายครั้งใน 1 ปี โดยเฉพาะเวลาที่มีราคาแพงก็จะแพงได้ถึงลูกล่ะ 5 บาท แต่มะนาวก็เป็นส่วนผสมสำคัญของอาหารไทยในทุกๆครัวเรือน ในเวลาที่ทะนาวราคาถูกพ่อบ้านแม่บ้านหลายบ้านก็พยายามซื้อเก็บไว้ แต่ก็เจอกับปัญหามะนาวเหลือง มะนาวเน่าก่อนที่จะนำมาใช้ ครั้งนี้เราจึงนำเอาเคล็ดลับการเก็บมะนาวไว้ให้นานเป็นปีโดยที่ไม่เหลืองไม่เน่า ผ่าออกมาใช้แล้วยังให้รสชาติและกลิ่นหอมที่ไม่เปลี่ยนแปลง ไปดูกันค่ะว่า เราเอาเคล็ดลับอย่างไรมาฝากคุณ วิธีการเก็บรักษามะนาวไว้ใช้ให้นาน 1.เมื่อได้มะนาวมา ห้ามนำมะนาวไปล้างน้ำเด็ดขาด เพราะจะทำให้มะนาวเน่าได้ง่าย แต่ให้นำกระดาษทิชชูชุบน้ำพอหมาด แล้วนำมาเช็ดลูกมะนาว แล้วผึ่งลมไว้ให้แห้ง 2.เมื่อลูกมะนาวสะอาดและแห้งดีแล้วให้นำมะนาวใส่ถุงพลาสติกสำหรับใส่แกงลงไปให้ถึงปลายถุงโดยให้ผิวมะนาวแนบกับถุงพลาสติกให้มากที่สุด ไล่ลมออกแล้วใช้หนังยางรัดลูกมะนาวกับถุงพลาสติกให้แน่นเป็นตุ้ม และถ้าพื้นที่ของถุงพลาสติกยังเหลือให้นำมะนาวลูกต่อไปใส่ตามลงโดยใดยให้แนบกับเนื้อถุงพลาสติกเหมือนลูกแรก แล้วมันยางเป็นตุ้มที่ 2 ถ้าพื้นที่ยังเหลือก็ทำเหมือนเดิมจนใส่ลูกมะนาวไม่ได้แล้ว 3.ถ้าไม่มีถุงพลาสติกใส่อาหาร ให้ใช้พลาสติกถนอมอาหารแทน โดยนำแผ่นพลาสกติกถนอมอาหารดคลี่ออก แล้วเอามะนาววางเรียงในระยะๆ โดยให้มีระยะของแต่ละลูกห่างกันเล็กน้อย จากนั้นหุ้มลูกมะนาวด้วยพลาสติกถนอมอาหาร แล้วตัดแผ่นพลาสติกถนอมอาหารในขนาดที่สามารถหุ้มลูกมะนาวมิด แล้วบิดพลาสติกถนอมอาหารหุ้มมะนาวเป็นลูกๆไม่ให้ลูกมะนาวชนกัน ทำแบบนี้จนมะนาวหมด 4.นำลูกมะนาวที่บรรจุในถุงพลาสติกแบบใดแบบหนึ่งเรียกร้อยแล้วใส่ภาชนะมีฝาปิด แล้วเก็บใส่ตู้เย็น เมื่อไหร่ที่ต้องการใช้ก็นำมาใช้ทีละลูก รับรองว่ามะนาวจะยังเขียว และให้รสชาติ และกลิ่นหอมเหมือนซื้อมาใหม่ๆเลยล่ะ  แต่อย่าลืมล่ะเมื่อหยิบใช้ลูกไฟนอย่าให้ลูกที่เหลือหลุดออกจากถุงพลาสติกและโดนลมอย่างเด็ดขาด  เคล็บลับง่ายๆเพียงเท่านี้คุณก็สามารถจะเก็บรักษามะนาวไว้ใช้ได้นาน ไม่ต้องกลัวมะนาวเน่า มะนาวเหลือง หรือมะนาวแพง แล้วรสชาติอาหารของคุณก็จะไม่ขาดรสเปรี้ยวที่คุ้นเคย รู้แล้วก็อย่าลืมแบ่งปันเคล็ดลับนี้ให้กับเพื่อนบ้านหรือคนรู้จักด้วยล่ะ #เคล็ดลับการเก็บมะนาว #เคล็ดลับต่างๆ […]

4 ไอเดีย การจัดห้องนอนให้น่าอยู่ หลับสบายหลับสนิทตลอดคืน

4 ไอเดีย การจัดห้องนอนให้น่าอยู่ หลับสบายหลับสนิทตลอดคืน

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิท ครั้งนี้เรามีวิธีและเทคนิค การจัดห้องนอนให้น่าอยู่ เพื่อการหลับสบาย หลับสนิทตลอดคืน มาฝากกัน ถ้าสนใจตามไปดูกันค่ะ 1.ติดผ้าม่าน เพิ่มความเป็นส่วนตัว การจัดห้องนอนให้น่าอยู่ ผ้าม่านเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีในห้องนอน เพราะนอกจากจะเพิ่มความเป็นส่วนตัวแล้ว ยังช่วยบังแสงที่ลอดเข้ามาและช่วงบังความร้อนได้อีกด้วย ซึ่งตามธรรมชาติของมนุษย์จะสามารถนอนหลับได้ดี หลับได้สนิท เมื่อห้องนอนมืด หรือสลัว หากมีแสงสว่างในห้องมากเกินไป แสงจะไปกระตุ้นระบบประสาทการรับรู้ ทำให้เรานอนหลับได้ยาก 2.จัดห้องนอนให้เป็นระเบียบ วิธีจัดห้องนอนให้น่าอยู่คือ ควรเคลียร์สิ่งของที่ไม่จำเป็นออกจากห้องนอนให้หมดก่อน เพราะหากรกเกินไปจะเป็นแหล่งรวมของฝุ่นและสิ่งสกปรกต่างๆ ที่มากกว่านั้นคือจะเป็นแหล่งซ่องสุมของแมลงต่างๆ และสัตว์ร้าย เช่น แมลงสาบ ตะขาบ ตะเข็บ โดยการจัดให้เริ่มจาการจัดแยกสิ่งของที่ต้องใช้ไว้ฝั่งหนึ่ง และแยกส่วนที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้วฝั่งหนึ่ง และในสิ่งของที่ไม่ค่อยได้ใช้ ก็จะมาแยกทิ้ง หรือเก็บไว้ก่อนอีกครั้ง ต้องทำให้เป็นนิสัย เพื่อให้บรรยากาศในห้องน่าอยู่และสะอาดถูกสุขลักษณะ 3.เพิ่มความอบอุ่นให้ห้องด้วยแสงไฟ บางคนอาจกลัวความมืด พอมืดเกินไปก็นอนไม่หลับ สว่างเกินไปก็นอนไม่ได้อีก จึงควรหาไฟสีโทนอุ่นอย่างไฟสีส้ม หรือไฟสีเหลืองมาตกแต่งห้อง โดยจะเลือกเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ หรือติดผนังก็ได้ จะทำให้บรรยากาศในห้องดูสบายตาและดูอบอุ่นมากขึ้น เหมือนอยู่ในเทพนิยาย ที่สำคัญสีของไฟ จะช่วยให้เราหลับง่ายขึ้นอีกด้วย 4.เพิ่มกลิ่นหอม สร้างบรรยากาศ การจัดห้องนอนให้น่าอยู่ เรื่องกลิ่นก็มีความสำคัญ ลองหาอโรม่ากลิ่นที่ชอบมาตั้งวางในห้องอย่างเช่นกลิ่น […]

เทคนิค ทำความสะอาดแว่นยังไงโดยไม่ต้องเช็ด และไม่ให้เป็นรอย 

เทคนิค ทำความสะอาดแว่นยังไงโดยไม่ต้องเช็ด และไม่ให้เป็นรอย 

ครั้งนี้เอาใจหนุ่มแว่น สาวแว่นทั้งหลาย ด้วยการนำเอาเทคนิคการทำความสะอาดแว่นโดยไม่ต้องเช็ด และไม่ทำให้แว่นเกิดรอยขีดข่วน เพราะเลนแว่นตาปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วทำจากพลาสติก ไม่ได้ทำจากกระจบเหมือนสมัยก่อน จึงต้องระมัดระวังในการทำความสะอาดแว่นตาของเรา เพื่อที่จะไม่ทำให้สูญเสียการมองเห็นที่ชัดเจน ถ้าอยากรู้ว่าทำยังไงก็ตามไปดูเทคนิคการทำความสะอาดแว่นที่เอามาฝากกันเลยค่ะ เทคนิคการทำความสะอาดแว่นโดยไม่ต้องเช็ดแว่น อุปกรณ์ 1.น้ำยาล้างจานผสมน้ำแล้ว 2. ทิชชู  3 น้ำสะอาดจากก๊อกน้ำ วิธีล้าง 1.ล้างแว่นด้วยน้ำเปล่า เพื่อกำจัดเศษฝุ่นที่ติดแว่นออกก่อน โดยล้างจนไม่ให้มีฝุ่นหลงเหลืออยู่ที่แว่น 2.ใช้น้ำยาล้างจานที่ผสมน้ำแล้วมาถูกทำความสะอาดที่แว่น โดยใช้มือ ถูหน้าเลนหลังเลนอย่างเบามือให้ทั่วเลนแว่นทั้ง 2 ข้าง ( ที่ต้องใช้น้ำยาล้างจานเพราะน้ำยาล้างจานจะช่วยทำความสะอาดครบมันได้ดี และการสวมแว่นก็มักจะได้รับความมันจากผิวหนังบนหน้า หรือการใช้มือสัมผัสแว่นบ่อยๆ) 3.เมื่อถูทำความสะอาดแว่นจนครบทุกส่วนแล้ว จึงนำมาล้างน้ำให้สะอาด โดยการล้างขั้นตอนนี้ ไม่ต้องใช้มือไปแตะต้องส่วนที่เป็นเลนแล้ว ให้จับเฉพาะส่วนที่เป็นขาแว่น แล้วปล่อยให้น้ำจากก๊อกไหลผ่านเลนจนสะอาด 4.เมื่อล้างแว่นจนใสแล้ว จะพบว่าที่เลนของแว่นจะมีคราบน้ำหรือหยดน้ำเกาะอยู่ ซึ่งเราจะไม่ใช้ผ้าเช็ด แต่เราจะแก้ปัญหานี้โดย การเปิดน้ำก๊อกให้ไหลเป็นสายเบาๆ ( อย่าเปิดแรงให้น้ำหระเซ็น) แล้วจึงนำเลนแว่นที่มีหยดน้ำหรือคราบน้ำเกาะไปขยับให้ผ่านน้ำไปมา ( ทำแบบใจเย็นๆ) สักพัก  5.ปิดน้ำแล้วมาสังเกตดูได้เลยว่าที่เลนแว่นทั้งสองข้างไม่มีคราบน้ำหรือหยดน้ำเกาะเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว จะมีก็เพียงเลนแว่นตาของเราที่ใส่แจ๋วพร้อมใช้งาน ( แต่ถ้ายังมีหยดน้ำเกาะอยู่บนเลนบ้างเล็กน้อย แสดงว่าบริเวณนั้นของเลนแว่นได้เกิดรอยขีดข่วนไปเรียบร้อยแล้ว)  6.วิธีแก้ปัญหาตรงบริเวณแว่นที่เป็นรอยและมีน้ำเกาะเลนอยู่คือใช้กระดาษทิชชูที่เตรียมไว้ จิ้มไปตรงหยดน้ำ เพื่อซับน้ำออก โดยไม่ต้องเช็ค […]

วิธีไล่จิ้งจก ตุ๊กแก มด แมลง ยุง แมลงสาบ แบบธรรมชาติเห็นผลทันตา100% 

วิธีไล่จิ้งจก ตุ๊กแก มด แมลง ยุง แมลงสาบ แบบธรรมชาติเห็นผลทันตา100% 

ใครที่มีปัญหาภายบ้านเต็มไปด้วย จิ้งจก ตุ๊กแก มด แมลง ยุงแมลงสาบคอยกวนใจ ต้องคอยทำความสะอาดบ้านบ่อย เพราะเจ้าสัตว์พวกนี้มันขี้ใส่บ้านเรือนของเราเป็นประจำ วันนี้เรามีเคล็ดลับการไล่เจ้าสัตว์แก๊งก่อความรำคาญที่กล่าวมาในข้างต้นมาฝากกัน ซึ่งเป็นวิธีธรรมชาติไม่ต้องฆ่าหรือทำลายชีวิตพวกเค้า และเป็นวิธีที่ให้ผลรวดเร็วทันตา และได้ผล 100 % ใครอยากได้เคล็ดลับนี้ไปเตรียมอุปกรณ์และลงมือทำกันเลยค่ะ สูตรทำน้ำยาไล่จิ้งจก ตุ๊กแก แมลงสาบแบบง่ายๆ อุปกรณ์ 1.มะนาว 1 ลูก 2.น้ำส้มสายชู 100 มล. 3.น้ำยาล้างจาน 1 ช้อนโต๊ะ 4.น้ำเปล่า 1 ลิตร 5.ขวดฉีดสเปรย์พร้อมหัวฉีด วิธีทำ 1.ใส่น้ำเปล่าหนึ่งลิตรลงในภาชนะที่จะใช้ผสมน้ำยา แล้วตามด้วยน้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน 2.บีบน้ำมะนาวตามลงไปในชามผสม แล้วแช่เปลือกมะนาวทิ้งไว้ในส่วนผสม 5-10 นาที เพื่อให้น้ำหอมระเหยจากเปลือกมะนาวผสมไปในส่วนผสมของน้ำยา แล้วตามด้วยน้ำยาล้างจาน แล้วค่อยๆคนให้ส่วนผสมเข้ากัน 3.นำน้ำยาที่คนผสมเข้ากันดีแล้ว มากรองใส่ภาชนะโดนผ่านกระชอน จากนั้นก็นำมากรอกใส่ขวดสเปรย์ที่เตรียมไว้ 4.นำสเปรย์น้ำยาไปฉีดบริเวณที่จิ้งจก ตุ๊กแก แมลง มด แมลงสาบชอบมาให้ทั่วๆบริเวณ และฉีดบริเวณที่มีขี้จิ้งจกเป็นประจำด้วย อ้อ ! แล้วอย่าลืมไปฉีดบริเวณครัวที่ทำอาหารเพื่อไล่มด […]

เคล็ดลับการซักรองเท้าผ้าใบให้ขาวเหมือนใหม่ และขจัดคราบเหลืองที่ฝั่งแน่น

เคล็ดลับการซักรองเท้าผ้าใบให้ขาวเหมือนใหม่ และขจัดคราบเหลืองที่ฝั่งแน่น

ถ้าคุณมีปัญหารองเท้าผ้าใบสีขาวของลูกๆ มีคราบเหลืองฝังแน่น และไม่ค่อยขาวสะอาด วันนี้เรามีเคล็ดลับที่จะช่วยแห้ปัญหาเหล่านี้มาฝากคุณแม่บ้านกัน รับรองว่าเคล็ดลับนี้จะทำให้เจ้าตัวเล็กได้ใส่รองเท้าพละผ้าใบสีขาวที่ขาวสะอาดเหมือนใหม่ไปโรงเรียนทุกอาทิตย์เลยล่ะคะ ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูเคล็ดลับกันเลยนะคะ อุปกรณ์ ผงซักฟอกธรรมดา ถังหรือกะละมังสำหรับแช่รองเท้า เบคกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู กระดานทิชชู วิธีทำ 1.ละลายผงซักฟอกกับน้ำเปล่าในถังที่เตรียมไว้ 2.แกะเชือกผูกรองเท้าออก แล้วนำไปแช่ในถังที่ละลายผงซักฟอกไว้นาน 15-20 นาที 3.เมื่อครบเวลานำรองเท้าออกมาขัดด้วยแปรงซักผ้าเหมือนปกติ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด 4.จะเห็นว่ารองเท้าผ้าใบสีขาวที่ใช้มานานจะมีคราบสีเหลืองติดอยู่ในบางส่วนของรองเท้า และรองเท้ายังไม่ขาวสะอาดเหมือนใหม่แม้จะขีดแล้ว ไม่ต้องกังวลใจค่ะ ทำตามขั้นตอนในข้อต่อไปนะคะ 5.เทเบคกิ้งโซดาใส่ลงในอ่างผสม หรือถุงซักที่สะอาด แล้สเติมน้ำส้มสายชูลงไป ใช้วัสดุค้นผสมให้ทั้งสองอย่างละลายเข้ากันได้ดี 6.นำส่วนผสมของเบคกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูที่ละลายเตรียมไว้ มาทำการขัดรองเท้าให้ทั่วๆอีกครั้ง ขัดย้ำในจุดที่เป็นคราบเหลืองเป็นพิเศษจนคราบเหลืองหลุดออกไป จากนั้นล้างน้ำให้สะอาดหมดจด ไม่เหลือคราบของผงซักฟอกและส่วนผสมของเบคกิ้งโซดา 7. ก่อนนำรองเท้าไปตากแดด นำกระดาษทิชชูมาแปะหุ้มให้รอบๆรองเท้า โดยเฉพสะบริเวณขอบยางของรองเท้าที่น้ำจะไหลลงไปรวมตัวกัน โดยห่อให้มิดถ้ากระดาษทิชชูหนาหุ้มชั้นเดียว แต่ถ้าเป็นกระดาษทิชชูบางให้หุ้ม 2 ชั้น ( กระดาษทิชชูจะช่วยซับคราบน้ำสีเหลืองที่อาจยังมองไม่เห็นในขณะที่รองเท้ายังไม่แห้ง) 8.เมื่อห่อกระดาษทิชชูเรียบร้อยแล้วนำไปตามแดดตามปกติ 9.เมื่อรองเท้าแห้งดีแล้ว นำมาแกะกระดาษทิชชูออกให้หมด ทีนี้คุณก็จะเห็นรองเท้าคู่ใหม่ของเจ้าตัวเล็กที่ขาวจั๊วะเหมือนใหม่ รับรองถูกใจลูกสาวลูกชายอย่างแน่นอน อ้อ ! แล้วอย่าลืม นำเชือกผู้รองเท้ามาซักในทั้งสองขั้นตอนด้วยล่ะคะ โดยเฉพาะในขั้นตอนที่ซักด้วยเบคกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู เพราะส่วนใหญ่แล้วเชือกผู้รองเท้าจะมีคราบเหลืองและคราบสกปรกฝังแน่นกว่าส่วนที่เป็นตัวรองเท้าเสียอีก คงไม่ดีแน่หากรองเท้าขาวจั๊วะ […]

กล้วยสุกงอม ดำ เละ อย่าทิ้ง!!! เอามาใช้ผสมน้ำซาวข้าวรดพืชผักได้ เพราะมีธาตุอาหาร

กล้วยสุกงอม ดำ เละ อย่าทิ้ง!!! เอามาใช้ผสมน้ำซาวข้าวรดพืชผักได้ เพราะมีธาตุอาหาร

ถ้าที่บ้านคุณมีกล้วยสุกงอมมากจนเละ ไม่สามารถนำมารับประทานได้อย่าเพิ่งโยนทิ้งถังขยะนะคะ เพราะวันนี้เรามีไอเดียนำกล้วยสุกงอมมาใช้ประโยชน์ในครัวเรือนมาฝากกันค่ะ โดยปกติ กล้วยก็เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้ว แต่คุณเคยรู้ไหมว่า ประโยชน์ของกล้วยที่สุกงอมที่คุณกำลังจะโยนทิ้งนั้นมีมากมาย โดยโดยสามารถนำไปเป็นส่วนผสมในการรดพืชผักของเราในบ้านได้ แล้วต้องทำยังไงบ้าง ?ลองมาดูกันค่ะ วัสดุที่ต้องใช้ร่วมกับกล้วยที่สุกงอมจนเน่า เพื่อนำไปใช้รดพืชผัก ก็มีเพียงกล้วยที่สุกงอม และน้ำซาวข้าว 1 ลิตร ใช้เพียง 2 อย่างนี้ก็จะสามารถช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดินได้เป็นอย่างดี เพราะในน้ำซาวข้าวจะมีวิตามินจากข้าว ส่วนกล้วยก็จะอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่พืชต้องการทั้ง  โปรเทสเซี่ยม ฟอสฟอรัส แคลเซี่ยม รวมทั้งโปรตีน วิธีทำปุ๋ยจากล้วยสุกงอมและน้ำซาวข้าว 1.เทน้ำซาวข้าวใส่ถังผสม  2.ปอกเปลือกกล้วยที่สุกงอม แล้วบี้ให้เละ 3.นำเนื้อกล้วยที่บี้จนเลอะแล้ว ไปคนผสมให้ละลายรวมกับน้ำซาวข้าว จากนั้นปิดฝาถังผสม และหมักทิ้งไว้ประมาณ 60 นาที เพื่อให้สารอาหารที่อยู่ในกล้วยกลั่นออกมาผสมกับน้ำซาวข้าว เมื่อแช่ไว้จนครบเวลาก็นำสารที่เตรียมไวไปรดพืชผักสวนครัว หรือต้นไม้ในบ้าน การนำไปรดพืชผัก ที่เติบโตแล้ว หรือยังเป็นต้นเล็กๆอยู่ หรือใช้รดต้นไม้ภายในบ้านได้ ปุ๋ยอินทรีสูตรนี้จะเห็นผลได้ชัดกับต้นพืชที่มีปัญหา เช่นพืชสวนครัวที่มีอาการใบเหลือง ต้นแคระแกน แต่ก็สามารถนำไปรดต้นพืชที่ไม่มีปัญหาได้เช่นกัน เพราะเป็นการเพิ่มสารอาหารให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ เปรียบเสมือนกับการใส่ปุ๋ย เพียงแต่เราไม่ต้องเสียเงินไปซื้อปุ๋ยและใช้ของที่รับประทานไม่ได้แล้วมาทดแทน โดยกล้วยกับน้ำซาวข้าวก็เปรียบเสมือนปุ๋ยอินทรีย์ โดยที่เราไม่ต้องไปเสี่ยงกับอันตรายกับปุ๋ยเคมีอีกด้วย ไอเดียนี้ นอกจากไม่ต้องกังวลกับการรับประทานกล้วยไม่ทันแล้ว ยังไม่ต้องรู้สึกเสียดายที่จะต้องทิ้งของเสียอีกด้วย แถมทำให้พืชผักสวนครัวเจริญงอกงามให้เราได้เก็บกินแบบปลอดสารพิษอีกด้วย  […]

หมดปัญหาคราบไขมันฝั่งแน่นบนอ่างล้างจาน และอุปกรณ์ในครัว ด้วยน้ำอัดลม และยาสีฟัน

หมดปัญหาคราบไขมันฝั่งแน่นบนอ่างล้างจาน และอุปกรณ์ในครัว ด้วยน้ำอัดลม และยาสีฟัน

เพราะบริเวณอ่างล้านจานหลีกเลี่ยงการเจอกับคราบไขมันไม่ได้ เพราะจานอาหารหรืออุกปกรณ์ทำครัวที่นำมาล้างที่อ่างล้างจานส่วนใหญ่จะจะมีคราบของน้ำมันหรือไขมันติดเกาะอยู่เมื่อนำมาล้างในอ้างล้างจานโอกาสที่จะเกิดคราบไขมันติดเกาะบริเวณอ่างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่หากติดเกาะไปนานๆจนเกิดคราบฝังแน่นนั่นสิปัญหา เพราะมันทำให้อ่างล้านจานของเราดูไม่สะอาดถูกสุขลักษณะอนามัย ใครที่เจอกับปัญหา คราบไขมัน หรือคราบสกปรกติดฝังแน่นบนอ่างล่างจานเช่นนี้ ตัดความกังวลทิ้งไปได้เลยค่ะ เพราะครั้งนี้เรามีเคล็ดลับง่ายๆที่สามารถกำจัดคราบไขมันเหล่านี้มาฝากด้วยของที่หาง่ายใกล้ตัวเราตามไปดูเคล็ดลับหรือเทคนิคที่เรานำมาฝากกันเลยค่ะ สำหรับอุปกรณ์สำคัญที่จะเป็นพระเอกในการช่วยกำจัดคราบไขมันฝังแน่นบนอ่างล้างจานครั้งนี้ของเราคือ 1.น้ำอัดลม”  2.ยาสีฟัน”  3.อุปกรณ์สำหรับขัดทำความสะอาดเท่านั้นเองค่ะ วิธีขจัดคราบ 1.เทน้ำอัดลมใส่ภาชนะ ปริมาณไม่ต้องมาก จากนั้นบีบยาสีฟันที่เตรียมไปลงไปในปริมาณพอสมควร ( ประมาณ 1-2 บีบแบบเต็มช่องบีบ )  จากนั้นใช้อุปกรณคนให่ส่วนผสมของน้ำอัดลมและยาสีฟันเข้ากัน 2.เมื่อคนจนยาสีฟันละลายจนหมดแล้ว ใช้ สก็อตไบร์ทที่มีติดกับฟองน้ำจุ่มลงในน้ำยาที่ทำไว้ขจัดคราบ แล้วนำไปขัดถูบริเวณที่คราบไขมันฝังแน่น  3.เมื่อขัดด้วยน้ำยาที่ผสมจนทั่วแล้ว ล้างบริเวณที่ขัดด้วยน้ำสะอาด แล้วใช้ผ้าเช็ดให้แห้ง คุณก็จะได้อ่างล้างจานที่ไร้คราบไขมัน สะอาดเหมือนใหม่อย่างน่าตกใจ เคล็ดลับนี่เป็นเคล็ดลับง่ายที่ใช้เงินลงทุนเพียงไม่กี่บาท และนอกจากจะทำความสะอาดคราบไขมันบนอ่างล้างจานได้แล้ว คุฯยังสามารถนำไปขัดล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ในครัวเช่น หม้อกระทะ ทัพพี มีด ตะหลิว หรืออุปกรณ์อื่นๆในครัวที่มีคราบไขมันฝังแน่นได้  นอกจำนั้น นำอัดลมยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น  ช่วยในการเปิดเปิดจุกฝาขวดที่แน่นเกินไป ถ้าคุณมีปัญหาในการเปิดฝาขวดที่ไม่สามารถเปิดออกได้ คุณลองใช้ผ้าที่คุณมี ชุดน้ำอันลม แล้วนำไปประคบฝาที่แน่นไว้สักพัก แล้วลองเปิดฝาขวดที่เปิดไปออกดูอีกครั้ง คราวนี้คุณก็จะเปิดฝาขวดได้ง่ายขึ้น เพราะน้ำอัดลมที่นำไประกบจะช่วยให้ความแน่นอของฝาคลายตัวลงและช่วยทำให้เปิดได้ง่ายขึ้น ทำสำเร็จแล้วอย่างลืมแบ่งปันเคล็ดลับที่ดีๆและง่ายแสนง่ายแบบนี้ให้เพื่อนๆของคุณที่ประสบปัญหาเช่นเดียวกันด้วยล่ะ

เคล็ดลับละลายเนื้อสัตว์ที่แช่ช่องแข็งจนแข็งโป๊กอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องแช่น้ำ

เคล็ดลับละลายเนื้อสัตว์ที่แช่ช่องแข็งจนแข็งโป๊กอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องแช่น้ำ

ใครที่มีปัญหาว่าเวลาที่ทำอาหารด้วยเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ แล้วเนื้อสัตว์เหล่านี้ก็ถูกแช่ช่องฟรีซแข็งโป๊ก เมื่อเวลาจะทำส่วนใหญ่ก็จะนำไปแช่น้ำ แล้วมันก็จะทำให้เนื้อสัตว์ของเราเสียรสชาติเมื่อนำไปประกอบอาหารก็ไม่มีความร่อย หรือบางคนก็อาจจะเออกมาตั้งไว้เพื่อรอให้น้ำแข็งละลายก็ต้องใช้เวลานานมาก วันนี้เราจึงเอาเคล็ดลับทำให้น้ำแข็งละลายแบบทันกิน ทันเวลาทำอาหาร เราตามไปดูเคล็ดลับนี้พร้อมกันเลยค่ะ เคล็ดลับการละลายน้ำแข็งแบบรวดเร็ว 1.นำหมูออกจากช่องแช่แข็ง  แกะวัสดุที่ห่อหุ้มออกให้หมด จานั้นนำไปใส่ภาชนะที่แบนๆ แล้ว นำพักเนื้อสัตว์ที่ต้องการละลายน้ำแข็งพักรอไว้ 2.ทำความสะอาดหม้อที่จะใช้ต้นน้ำร้อน ให้สะอาด โดยเฉพาะบริเวณก้นหม้อ จากน้ำเติมน้ำลงในหม้อพอประมาณ ตั้งเตาเปิดไฟแรง แล้วต้มน้ำจนเดือดจัด  3.เมื่อน้ำเดือดจัดดีแล้วปิดไฟ นำหม้อทีร้อนและมีน้ำเดือดอยู่หม้อ ไปกดประคบชิ้นเนื้อสัตว์ที่เตรียมไว้ ประกบไปเรื่อยๆ จนรู้สึกเนื้อสัตว์ด้านที่ถูกประคบมีความนิ่มและน้ำแข็งละลายแล้วจึงพลิกเนื้อสัตว์กลับด้าน แล้วใช้ก้นหม้อกดประคบเหมือนในครั้งแรก ประคบไปเรื่อยๆ คุณก็จะเห็นว่าน้ำแข็งเริ่มละลายจนหมด และเนื้อสัตว์ของคุณก็นิ่ม พร้อมที่จะนำไปประกอบอาหารแล้ว  ( สำหรับภาชนะที่นำมารองเนื้อสัตว์เพื่อประกอบอาหาร ควรใช้ภาชนะสะอาดที่มีก้น เช่นถาด เพื่อจะได้รองรับน้ำแข็งที่ละลายออกจากเนื้อสัตว์ ) 4.วิธีนี้ใช้ได้กับเนื้อสัตว์ที่เป็นชิ้น และเนื้อสัตว์ที่เป็นเนื้อสับละเอียด ทำเพียงเท่านี้ เนื้อสัตว์ที่แข็งโป๊กของคุณก็จะกลับมานิ่ม ไร้น้ำแข็งเกาะ พร้อมที่จะนำไปประกอบอาหารที่คุณต้องการแล้ว เคล็ดลับการละลายน้ำแข็งในเนื้อสัตว์เคล็ดลับนี้ ใช้เวลาไม่รนาน เหมือนวิธีการเก่าๆที่เราเคยทำ อีกทั้งเนื้อสัตว์ยังคงรสชาติความร่อยไม่จืดจนไม่มีรสชาติเหมือนการนำไปแช่น้ำที่สูญเสียทั้งเวลาและสูญเสียทั้งรสชาติความอร่อยของเนื้อสัตว์ด้วย ข้อสำคัญในการใช้เทคนิคนี้ในการละลายน้ำแข็ง คุณต้องใส่ใจและให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดก้นหม้อที่จะต้องนำไปประคบเนื้อสัตว์ที่ต้องการละลายเป็นอย่างดี หรืออาจใช้ผ้าสะอาดเช็ดทำความสะอาดก้นหม้อก่อนที่จะนำลงประคบก่อนก็จะทำให้ถูกสุขลักษณะอนามัยในการทำอาหารมากขึ้นค่ะ หมดยุคเอาเนื้อสัตว์แข็งโป๊กจากช่องแช่แข็งไปแช่ในน้ำให้ละลาย หรือตั้งทิ้งไว้ให้รอละลายแล้วค่ะ อย่าลืมแบ่งปันเคล็ดลับที่รวดเร็วทันใจนี้กับแม่บ้านพ่อบ้านท่านอื่นๆกันด้วยนะคะ #เคล็ดลับละลายเนื้อสัตว์ #เคล็ดลับต่างๆ #ไอเดียสุดเจ๋ง

วัสดุเหลือทิ้งให้กลับมามีประโยชน์ รวม 3 ไอเดียที่นำวัสดุเหลือทิ้งมาทำเป็นของใหม่

วัสดุเหลือทิ้งให้กลับมามีประโยชน์ รวม 3 ไอเดียที่นำวัสดุเหลือทิ้งมาทำเป็นของใหม่

“ขยะที่ยังมีประโยชน์” หรือ “วัสดุเหลือทิ้งที่มีประโยชน์” คือสิ่งของหรือวัสดุต่าง ๆ ที่เรานั้นไม่ต้องการมันแล้วหรืออาจจะหมายถึงการที่เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้มันแล้ว บางคนก็เลือกที่จะทิ้งไปไม่ให้รกบ้าน รกห้องแต่บางคนก็เลือกที่จะเก็บไว้ เพราะคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์ในอนาคตแต่สุดท้ายเราก็ลืมมันไป เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ก็มักจะเผลอไปซื้อมาใหม่อยู่เรื่อย ๆ ทำให้กลายเป็นคล้าย ๆ ขยะสะสมภายในบ้าน เราที่เล็งเห็นถึงปัญหาของคนกลุ่มหลังที่ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์จากมันแล้วแต่ก็รู้สึกเสียดาย ไม่กล้าทิ้ง จึงเป็นที่มาของการ รังสรรค์วัสดุเหลือทิ้งให้กลับมามีประโยชน์ รวม 3 ไอเดียที่นำวัสดุเหลือทิ้งมาทำเป็นของชิ้นใหม่ ในวันนี้นั่นเองจ้า โดยบอกเลยว่าทั้ง 3 ไอเดียนั้นทำง่ายไม่อยาก บางชิ้นนั้นเป็นได้ทั้งของตกแต่งและของใช้สอยในชีวิตประจำวันได้ด้วยอีก จัดว่า 2IN1 ยิงนัดเดียวได้นกถึง 2 ตัวสุด ๆ หากใครที่อยากจะรู้ไอเดียของการนำวัสดุเหลือทิ้งมาทำเป็นของชิ้นใหม่แล้วก็ปัดขึ้นเลยจ้า เขียง เชือกป่านและเส้นลูกปัดเก่าทำให้กลายเป็นกระจก ไอเดียแรกของวัสดุเหลือทิ้งทำง่ายมาก ๆ โดยการที่เราจะนำเหล่าเขียง เชือกป่าน เส้นลูกปัดเก่าซึ่งเป็นบรรดาข้าวัสดุเหลือทิ้งมาและกระจกกลม 1 บาน โดยเราจะทำการติดเหล่าเชือกป่านและเส้นลูกปัดเก่า ๆ ลงไปบนเขียงให้เหลือพื้นที่เท่ากับกระจกที่เราเตรียมมา เมื่อได้แล้วเราก็จะติดกระจกเป็นอย่างสุดท้ายเพียงเท่านี้เราก็จะได้กระจกจากวัสดุเหลือทิ้งมาใช้แล้วจ้า พับกระดาษทิชชู่ให้กลายเป็นดอกไม้นานาชนิด วัสดุเหลือทิ้งสำหรับไอเดียนี้ก็คือ “ทิชชู่” ค่ะ แต่ไม่ใช่ของที่ใช้แล้วนะ เพราะทิชชู่ที่เป็นวัสดุเหลือทิ้งที่เราหมายถึงนั้นนั่นก็คือพวกทิชชู่ที่เก่า อยู่ก้น ๆ ท้าย […]

มาเพิ่มเสน่ห์ให้สวนกับ 3 ไอเดียกระถางต้นไม้ใหญ่ที่ทั้งน่ารักและเป็นที่น่าจดจำ!

มาเพิ่มเสน่ห์ให้สวนกับ 3 ไอเดียกระถางต้นไม้ใหญ่ที่ทั้งน่ารักและเป็นที่น่าจดจำ!

เชื่อว่าหลาย ๆ คน ณ ที่นี้คงชื่นชอบสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า “ต้นไม้” กันอยู่พอสมควรและอีกสิ่งที่เราก็เชื่อเหมือนกันว่าหลาย ๆ บ้านนั้นจะต้องมี สิ่งนั้นมักถูกเรียกว่า “ของเหลือใช้และขยะที่ยังสามารถใช้ได้” เป็นสิ่งที่ยังพอที่จะสามารถใช้ได้อยู่หรือของบางชิ้นก็ยังดูใหม่อยู่เลยแต่ “ไม่ต้องการมันแล้ว” ทำให้ไม่ว่ามันจะใหม่เพียงใดก็คงไร้ประโยชน์สำหรับเราอยู่ดี เพราะฉะนั้นแทนที่ทุกคนจะนำสิ่งเหล่านั้นไปทิ้งสู้นำมาทำเป็น “กระถางต้นไม้” ให้กับลูกรักของเราเสียคงจะดีกว่าเน๊อะ เพราะฉะนั้นเรามา มาเพิ่มเสน่ห์ให้สวนกับ 3 ไอเดียกระถางต้นไม้ใหญ่ที่ทั้งน่ารักและเป็นที่น่าจดจำ! กันเถอะเพื่อน ๆ หากใครพร้อมแล้วสำหรับการเริ่ม DIY ของเหลือใช้หรือขยะที่ยังสามารถใช้ได้ให้กลายมาเป็น “กระถางต้นไม้” ให้กับลูกรักของเราแล้ว เราก็ไปดูกันต่อกับไอเดียแรกกันเลยค่ะ ชักโครกเก่าเปลี่ยนเป็นชักโครกกระถางต้นไม้ลายจุดสุดCute! ไอเดียกระถางต้นไม้ไอเดียแรกของเรานั้นเป็นกระถางต้นไม้จากชักโครกเก่าที่เราจะนำมาทำความสะอาดและตกแต่งเป็นลายจุดค่ะ โดยลายจุดของกระถางต้นไม้นั้นจะได้มาจากการนำลูกโป่งไปจุ่มสี จากนั้นก็นำมากดลงบนชักโครกตามจุดต่าง ๆ จ้าหรือใครที่เก่งศิลปะอยากจะเพนท์เองก็สวยไปอีกแบบ เป็นไอเดียของกระถางต้นไม้ที่แปลกมากแต่ก็น่ารักและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ถังน้ำแกลลอนกลายเป็นกระถางต้นไม้ได้อย่างง่าย ๆ  ไอเดียกระถางต้นไม้นี้ทำง่ายสุด ๆ ค่ะแต่บอกเลยว่าผลลัพธ์เกินคาดแน่ โดยไอเดียกระถางต้นไม้นี้จำเป็นต้องมีถังน้ำแกลลอนทั้งหมด 2 ถังด้วยกัน ขั้นแรกเราจะสังเกตได้ว่าถังน้ำแบบแกลลอนนั้นจะมีนูน ๆ ออกมาด้วยประมาณ 3 ที่ โดยเราจะใช้ประโยชน์จากรอยนูนนี้กัน ถังแรกให้ตัดด้านบนของรอยนูนบนสุด เราจะใช้ส่วนหัวค่ะ จากนั้นถังที่สองเราจะตัดใต้รอยนูนตรงกลางหรือก็คือรอยนูนที่ 2 จากนั้นนำฝาชนฝา […]