How to เขียนนิยายฉบับมือใหม่

How to เขียนนิยายฉบับมือใหม่

  สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นเขียนนิยายในช่วงแรกๆ คุณอาจจะยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากส่วนไหนหรือควรจบที่ตรงไหน วันนี้เราจึงนำ How to เขียนนิยายฉบับมือใหม่ มาฝากนักเขียนนิยายมือใหม่กันค่ะ รับองว่าถ้าหากคุณมีความพยายามและพร้อมที่จะเรียนรู้ไปกับมัน การเขียนนิยาย สักหนึ่งเรื่อง คงจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป  เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่าจะมีเคล็ดลับดีๆอะไรบ้าง   1.ตั้งเป้าหมาย คุณควรคิดว่า กำลังทำอะไรอยู่ทั้งกับตัวคุณเองและผู้อ่าน หากคุณรู้ว่าหนังสือเป็นรูปแบบใดตั้งแต่แรก คุณก็จะรู้ว่าควรตั้งเป้าไว้ที่อะไร สามารถเขียนสิ่งที่คุณรัก และสามารถเขียนสิ่งที่จะดึงดูดผู้ชมได้ด้วย   2.หาแรงจูงใจ มุ่งประเด็นไปที่ความสนใจหรือความอยากรู้อยากเห็นเป็นขั้นตอนแรกในการค้นหาความคิด เมื่อคุณเริ่มสังเกตเห็นแล้ว คุณจะสามารถดำเนินการขั้นต่อไปได้ เมื่อปรับแต่งความอยากรู้อยากเห็นและเริ่มเขียนความคิดลงไปแล้ว คุณจะพบว่า สิ่งเหล่านี้รวมกันเป็นเรื่องราวที่เป็นไปได้เพราะประกายไฟถูกจุดติดแล้วนั่นเอง   3.เขียนให้เป็นเรื่องราว แม้ว่าคุณจะอ่านหนังสือมาแล้วหลายพันเล่ม แต่ยังคงเป็นการยากที่จะเขียนนิยายเรื่องราวให้ผู้อ่านชื่นชอบ สิ่งสำคัญคือ คุณต้องเข้าใจพื้นฐานของโครงสร้างเรื่องราวเป็นอันดับแรก   4.พล็อตเรื่องชวนติดตาม พล็อตเรื่องและฉาก เป็นประสบการณ์ของตัวละคร และถ้า การเขียนนิยาย ของคุณเข้าใกล้อารมณ์ของตัวละครเอกมากเท่าไหร่ ผู้อ่านก็จะมีอารมณ์ร่วมกับเรื่องราวมากขึ้นเท่านั้น   5.ผู้อ่านมีส่วนร่วมในตัวละคร หากคุณต้องการให้ผู้อ่านใช้เวลาอันมีค่ากับหนังสือของคุณ คุณต้องเขียนตัวละครที่ทำให้พวกเขามีส่วนร่วม เพื่อดึงดูดความสนใจให้อยากรู้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในโลกของตัวละคร กำหนดมุมมองที่คุณเขียนผ่านตัวละครและนี่เป็นสิ่งสำคัญเพราะทุกเรื่องมีมุมมองที่แตกต่างกัน   6.เริ่มต้นจากร่างความคิด ฉบับร่างแรกของนิยายไม่จำเป็นต้องเยี่ยมยอด ปล่อยความคิดให้โลดแล่น เพราะส่วนที่ยังไม่ได้ขัดเกลาอาจกลายมาเป็นส่วนที่จับใจที่สุดของเรื่องในฉบับร่างถัดไปก็ได้   7.แก้ไขต้นฉบับ วิธีที่ดีที่สุดในการปรับปรุง การเขียนนิยาย ของคุณคือ การทำงานร่วมกับบรรณาธิการเกี่ยวกับต้นฉบับของคุณ […]

How to แก้วิธีนอนกรน

How to แก้วิธีนอนกรน

เชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงเคยนอนกรนกันอยู่บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าการนอนกรนเป็นปัญหาการนอนหลับที่ส่งผลต่อสุขภาพของเราเอง หรือบางทีเสียงกรนก็ยังไปรบกวนคนที่นอนข้างๆกันด้วย และแน่นอนว่าเขาต้องรำคาญแน่ๆเพราะมันทำให้บางคนนอนไม่หลับอีกด้วย แต่ปัญหาการนอนกรนก็มีวิธีแก้นะคะ เราเลยรวบรวมวิธีแก้นอนกรนมาฝากทุกคนฉบับง่ายๆ ไปดูกันเลยค่ะว่ามีวิธีไหนบ้าง 1.พักผ่อนให้เพียงพอ ข้อนี้ถือว่าสำคัญมากค่ะ เราควรนอนพักผ่อนอย่างน้อยวันละ 7-8 ชั่วโมง เพราะหากเราพักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้ร่างกายเรารู้สึกเหนื่อยล้า และจะหลับลึกผิดปกติ ซึ่งอาจทำให้เนื้อเยื่อไปอุดกั้นทางเดินหายใจ ส่งผลให้เรานอนกรนนั่นเองค่ะ 2.ปรับเปลี่ยนท่านอน  สำหรับใครที่ชอบนอนหงายแล้วเป็นสาเหตุที่ทำให้เรานอนกรน ดังนั้นเราจึงควรเปลี่ยนท่านอนซึ่งอาจเปลี่ยนเป็นนอนตะแคง หรือสำหรับใครที่ไม่อยากเปลี่ยนท่านอนก็แนะนำว่าให้ลองเปลี่ยนหมอนใบใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อยกศีรษะให้สูงขึ้น และช่วยลดเสียงกรนลงนั่นเองค่ะ 3.ออกกำลังกายสม่ำเสมอ การออกกำลังกายนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังช่วยแก้ในเรื่องการนอนกรนด้วยนะคะ เพระาการออกกำลังกายจะช่วยให้หัวใจของเราทำงานได้ดี ดังนั้นสำหรับใครที่นอนกรนแนะนำว่าให้ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง 4.หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ข้อนี้ก็ถือว่าสำคัญนะคะสำหรับคนที่สูบบุหรี่ ไม่ควรสูบบุหรี่ก่อนนอน หรือถ้าจะสูบควรสูบก่อนนอนอย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง เพราะควันบุหรี่จะทำให้เกิดอาการคัดจมูกได้ ยิ่งสูบบุหรี่มากก็ยิ่งจะทำให้นอนกรนมากขึ้นไปด้วย หรือแม้แต่คนที่ไม่สูบบุหรี่แต่หากได้สูดดมควันบุหรี่เข้าไปแล้วก็เป็นสาเหตุให้นอนกรนได้เช่นกันค่ะ 5.ทำความสะอาดที่นอนและปลอกหมอนเป็นประจำ เราควรทำความสะอาดที่นอนและปลอกหมอนบ่อยๆเพื่อไม่ให้เป็นที่สะสมของเชื้อโรคหรือไรฝุ่นต่างๆรวมไปถึงสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองทุกชนิดที่อยู่ตามห้องนอน ซึ่งอาจทำให้เราหายใจไม่ออกจนเกิดเสียงกรนได้ และแนะนำว่าให้เปลี่ยนหมอนทุก 6 เดือนนะคะ เพื่อลดการสะสมของสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ต่างๆ เชื่อว่าวิธีแก้นอนกรนที่เรานำมาแจกวันนี้จะช่วยแก้ปัญหาการนอนกรนของเพื่อนๆได้ไม่มากก็น้อยนะคะ หรือใครจะลองหยิบมาใช้บางวิธีก็ได้นะคะ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากนอนกรนเพราะมันส่งเสียงรบกวนคนรอบข้าง ยังไงก็ลองหยิบวิธีที่เรานำมาแนะนำไปปรับใช้ดูนะคะ  #วิธีแก้นอนกรน #นอนกรน #เคล็ดลับต่างๆ

How to ใส่เสื้อเปิดหลังยังไงให้มั่นใจ

How to ใส่เสื้อเปิดหลังยังไงให้มั่นใจ

  เชื่อว่าหลายคนอาจจะอยากเปลี่ยนลุคตัวเองออกมาให้เซ็กซี่แซ่บๆ แบบสไตล์ใส่เสื้อแฟชั่นโชว์ไหล่ เปิดหลัง แต่ก็ยังไม่มีประสบการณ์มากพอกลัวจะทำให้ใส่ออกมาแล้วไม่สวยเป๊ะอย่างที่คิดไว้ ซึ่งบางคนก็อาจจะยังไม่มีความมั่นใจในการใส่เสื้อเปิดหลัง วันนี้เราจึงนำ How to ใส่เสื้อเปิดหลังยังไงให้มั่นใจ มาฝากสาวๆที่กำลังอยากเปลี่ยนตัวเองมาเป็นสาวเซ็กซี่แซ่บๆกันค้าาา ว่าแต่จะมีเคล็ดลับอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย   1.ดูแลผิวแผ่นหลังให้ดีๆ  ก่อนที่เราจะรู้ตัวว่าจะต้องมีการใส่ชุดเปิดไหล่เปิดหลัง ก็ต้องมั่นใจก่อนว่าเรานั้นดูแลตัวเองและผิวแผ่นหลังของเราให้สะอาดเรียบเนียน ออกมาดูดีไม่มีที่ติจำพวกสิวหรือรอยดำต่างๆ ที่จะทำให้การใส่เสื้อเปิดหลังของเรานั้นดูสะดุดตาขึ้นมาได้ ควรจะทำการสครับทำความสะอาดเหมือนดูแลผิวทั่วไปในส่วนอื่นๆเช่นกัน รวมทั้งจำเป็นต้องทากันแดดหรือสเปรย์กันแดดที่หลังทุกครั้งด้วยก่อนที่จะใส่เสื้อเปิดหลังออกไปด้านนอก เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด   2.เลือกเสื้อชั้นในให้ถูก สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งของการใส่เสื้อที่ต้องโชว์หลังคือการเลือกเสื้อชั้นในให้เหมาะสม จะใส่แบบมีเส้นมีสายตามสบายเหมือนใส่เสื้อตัวอื่นๆ ให้เห็นทั้งสายสปาเก็ตตี้และตะขอชุดชั้นในก็ดูจะไม่ดี ทำให้การแต่งตัวของเราดูไม่สวยแถมยังดูเกะกะตาอีกด้วย   3.เลือกชุดที่พอดี การเลือกชุดที่เหมาะสมที่เราต้องการจะใส่ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะต้องคำนึงถึงรูปร่างของเราเป็นที่ตั้งและการมีกาละเทศะของสถานที่หรือลักษณะงานที่เราไปด้วยเช่นกัน การเลือกชุดเปิดหลังแบบนี้ควรเลือกให้พอดีตัวจะเซฟได้มากที่สุด เพราะหากเลือกชุดที่ดูโคร่งหรือใหญ่กว่าตัวมากเกินไป อาจจะไม่เหมาะกับบางสถานที่หรือบางสถานการณ์ได้เพราะจะดูว่าตั้งใจเซ็กซี้ จนเหมือนจะโป๊เกินไปเสียมากกว่า แต่ถ้ารูปแบบของงานหรือสถานที่ค่อนข้างฟรีสไตล์ เราจะเลือกแต่งแบบไหนก็ได้ตามใจขอแค่ใส่แล้วมั่นใจแบบไหนก็ออกมาสวยทุกชุด   4.ปกปิดให้เนียนด้วยเมคอัพ  ถ้าถึงเวลาต้องออกงานใส่ชุดเปิดหลัง แต่ไม่มีเวลาเตรียมตัวสครับกำจัดริ้วรอยที่หลังหรือจะเข้าสปา เหตุจำเป็นเร่งด่วนขนาดนั้นก็คงต้องให้เมคอัพเข้าช่วยกันแล้วล่ะงานนี้ ต้องปกปิดความสิวที่มีด้วยคอนซิลเลอร์ตัวเก่ง หรือจะเป็นรองพื้นตัวโปรดที่เข้ากับสีผิวเราพอดี เติมปกปิดรอยที่มีได้เลยเหมือนกับการแต่งหน้า    5.อย่าให้ผมมาบัง ในเมื่อเลือกที่จะมาในลุคเปิดสวยเริ่ดมั่นใจกันแบบนี้ ก็อย่าปล่อยให้ทรงผมยาวตรงจรดปลายเท้าจนมาปิดบังชุดเปิดหลังที่ตั้งใจใส่มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะล่ะ เลือกผมที่เข้ากับชุด จะเป็นการรวบตึงเก็บหมด ถักเปีย หรือจะลอนเก็บไปข้างใดครั้งหนึ่งก็ได้ เอาที่ตามสะดวกอยู่ที่ความมั่นใจ หน้าผมชุดพร้อมแล้วใส่แบบไหนมั่นใจก็สวย แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่ที่การดูแลตัวเองเป็นหลัก และการเลือชุดที่เหมาะกับตัวเราเอง แต่การใส่ชุดเปิดหลังแบบนี้สิ่งที่จำเป็นที่สุดที่สาวๆควรต้องมีคือ ความมั่นใจเพราะไม่ว่าเราจะแต่งชุดไหนออกมาอย่างไร ความมั่นใจความเชิดเข้าไว้นั่นแหละที่จะทำให้เราสวยปังกว่าใคร […]

เทคนิคเลือกสีผ้าม่าน

เทคนิคเลือกสีผ้าม่าน

  ในเรื่องของการเลือกสีผ้าม่านเมื่อยุคสมัยมีการเปลี่ยนแปลง ผู้คนเริ่มมีความรู้ความเข้าใจที่หลากหลากหลาย ความชอบและ สไตล์ของแต่ละคน ประกอบกับสถานที่และความเหมาะสมทำให้การเลือกสีผ้าม่านมีการเปลี่ยนแปลง แต่การเลือกสีผ้าม่าน ยังไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัวเสมอไป แต่สำหรับผู้เริ่มต้น เรามีเทคนิคเลือกสีผ้าม่านมากฝากค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง   1.การเลือกผ้าม่านห้องรับแขก ห้องรับแขกเป็นห้องที่ใช้งานบ่อยมากที่สุด และเป็นห้องที่ต้องใช้ต้อนรับแขกหรือผู้มาติดต่อเยี่ยมเยือน การตกแต่งที่สวยงาม ยังเป็นการบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของบ้าน อาจจะเลือกผ้าม่านที่มีลายบ้างก็ได้ และสีของผ้าม่านก็อาจเข้มขึ้นมาตามบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมเช่นถ้าห้องที่กว้างและสูงโปร่ง มีการจัดวางเฟอร์เจอร์ไม่แน่นมาก ก็ไม่มีปัญหาสำหรับการใช้ผ้าม่านที่มีโทนสีเข้มหรือแบบที่มีลาย     2.การเลือกผ้าม่านห้องนอน ห้องนอนก็เป็นอีกห้องที่ต้องให้ความสำคัญเช่นกัน การเลือกผ้าม่านสำหรับห้องนอน ซึ่งเป็นห้องส่วนตัว สามารถเลือกสไตล์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกแบบผ้าม่านหรือเลือกสี ให้เลือกที่เราชอบเป็นอันดับแรก สีที่ถูกโฉลกกับเรา ด้วยห้องนอนถือเป็นห้องส่วนตัวเป็นตัวเราจริงๆ สามารถสร้างความเป็นตัวและแสดงความเป็นตัวตนของเราได้อย่างเต็มที่   3.การเลือกผ้าม่าน ห้องหนังสือ ห้องทำงาน ห้องหนังหรือห้องทำงาน ควรเป็นผ้าพื้นสีเท่านั้น แต่ถ้าจะมีลายก็ขอให้เป็นลายผ้าที่เล็กๆ ไม่เด่นสสุดตา สีของผ้าก็ควรให้เข้ากับสีภายใน ส่วนรูปแบบก็ให้เป็นแบบที่เรียบง่ายมากที่สุด เช่นผ้าม่านจีบ ผ้าม่านพับ หรือม่านตาไก่  เพราะบรรยากาศห้องนี้เป็นห้องที่ต้องการใช้ความสงบเพื่อความคิดหรือสมาธิในการอ่านหนังสือหรือทำงาน   4.การเลือกผ้าม่าน ห้องอาหาร ผ้าม่านห้องอาหาร สามารถใช้สีที่สดได้ เช่นสีส้ม สีเขียว สีเหลือง หรือสีที่เราชอบ แต่อย่างไรก็ควรให้เข้ากับสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์ หรืออย่างน้อยให้ออกโทนใกล้เคียงกันกับภายในห้อง เพื่อไม่ให้ผ้าม่านฉีกออกมามากนัก   5.การเลือกผ้าม่าน ห้องครัว  ควรทำเป็นม่านโปร่ง หรือผ้าโปร่งแสง เนื่องจากห้องครัวเป็นหัองที่ต้องการแสงสว่างและความปลอดโปร่ง อีกทั้งเพื่อการระบายอากาศที่ดี รูปแบบควรใช้เป็นผ้าม่านโปร่ง […]

เทคนิคเรียนออนไลน์ยังไงให้มีประสิทธิภาพ

เทคนิคเรียนออนไลน์ยังไงให้มีประสิทธิภาพ

  เราจะเห็นได้ได้ว่าในช่วงวิกฤตแบบนี้ เทรนด์การเรียนออนไลน์กำลังได้รับความนิยมกันอย่างมาก แต่เมื่อการเรียนออนไลน์ที่บ้าน มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเราต้องเจอกับอุปสรรคมากมาย ทั้งอินเทอร์เน็ตไม่เอื้ออำนวย สภาพแวดล้อมไม่เหมาะกับการเรียนรู้ แต่เราจะทำอย่างไรให้การเรียนออนไลน์มีประสิทธิภาพมากที่สุด วันนี้เรามี เทคนิคเรียนออนไลน์ยังไงให้มีประสิทธิภาพ มาฝากน้องๆนักเรียนนักศึกษากันค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่าจะมีเทคนิคอะไรบ้าง   1.หาแรงบันดาลใจในการเรียน ก่อนเริ่มเรียน ควรหาแรงบันดาลใจให้ตนเอง โดยเริ่มจากหาสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วตั้งเป้าหมายให้ชีวิต เมื่อเราเจอสิ่งที่ตัวเองสนใจก็จะทำให้อยากทำสิ่งนั้นให้ประสบความสำเร็จ และจะทำให้เราไม่รู้สึกเบื่อกับสิ่งที่เรากำลังศึกษา หรือสามารถพูดคุยกับติวเตอร์ที่จะมาแนะแนวอาชีพให้กับน้อง ๆ เพื่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการศึกษาต่อได้   2.สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียน สภาพแวดล้อมมีผลต่อการเรียนรู้ของคนเรามาก ถ้าสถานที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนจะช่วยให้เรามีสมาธิ จดจำข้อมูลต่าง ๆ ได้ดีและสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญคุณควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมกับการนั่งเรียน หลีกเลี่ยงการนั่งเรียนบนโซฟาหรือเตียง แบ่งแยกสถานที่สำหรับใช้ในการเรียนกับสถานที่สำหรับใช้ในการพักผ่อนออกจากกันให้ชัดเจน   3.เรียนให้ต่อเนื่องทุกวิชา การเรียนอย่างต่อเนื่องและเรียนครบทุกวิชา จะช่วยให้เราเก็บเกี่ยวข้อมูลได้อย่างครบถ้วน และสามารถทำความเข้าใจได้เป็นอย่างดี การขาดเรียนบ่อย ๆ อาจจะทำให้เกิดความไม่เข้าใจ ไม่สามารถปะติดปะต่อเนื้อหาที่ครูสอนได้   4.คอยจดโน้ตเวลาเรียน การจดโน้ตจะช่วยให้สมองของเรามีการคิดอยู่ตลอดเวลา ทำให้เข้าใจบทเรียนเร็วขึ้น และช่วยให้จดจ่อกับสิ่งที่เรียนนานยิ่งขึ้น ซึ่งนี่เป็นกลยุทธ์ที่ดีที่จะทำให้เรามีสมาธิกับสิ่งที่เรียนไม่ว่าเราจะเรียนผ่านช่องทางออนไลน์หรือเรียนในห้องเรียน   5.พักเบรกบ้าง หากสมองเราล้าแล้วก็ไม่จำเป็นต้องฝืน เพราะยิ่งพยายามเท่าไหร่สมองก็ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่กำลังเรียนรู้ได้อยู่ดี เราควรจะหยุดและพักสมองเป็นระยะๆ เพื่อให้สมองผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าบ้าง   6.ทบทวนบทเรียน ไม่ว่าจะเรียนในห้องเรียน หรือเรียนออนไลน์ นักเรียนควรทบทวนบทเรียนในแต่ละวิชาบ่อย ๆ และในระหว่างเรียนเราควรจดโน้ตตามความเข้าใจ  หลาย […]

6 ทริคแต่งห้องนอนให้หลับฝันดี

6 ทริคแต่งห้องนอนให้หลับฝันดี

  ห้องนอนถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน และแน่นอนว่า พื้นฐานสำคัญที่ต้องมี คือ ความเป็นอิสระและไม่ถูกรบกวนจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ง่าย ดูโปร่ง โล่ง สบาย เพราะห้องนอนคือห้องแห่งการพักผ่อน ฉะนั้นมาดูไอเดียแต่งห้องนอน พร้อม 6 ทริคแต่งห้องนอนให้หลับฝันดี ที่จะช่วยให้คุณนอนหลับพักผ่อนได้ง่ายและสบายขึ้น และถือเป็นการแต่งห้องนอนให้น่านอน น่าอยู่ ช่วยให้ห้องดูสวย โล่ง โปร่ง สบายไปในตัวด้วย ทริคดีๆเหล่านี้จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันดีกว่าค่ะ   1.ประตูห้องนอนไม่ควรอยู่ตรงกับเตียงนอน  ตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่า ขณะเปิดประตูจะเป็นการเปิดรับพลังงานเข้ามาในห้องด้วย ทำให้พลังงานนั้นปะทะกับเตียงและผู้ใช้ในห้องโดยตรง ส่งผลต่ออาการนอนไม่หลับ ไม่สบายใจ และมีปัญหาด้านสุขภาพได้     2.วางเฟอร์นิเจอร์คู่เสริมสร้างความสัมพันธ์  ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟคู่บริเวณโต๊ะหัวเตียง หรือภาพคู่รัก เทียนคู่ หรือพืชที่มีใบกลม อย่าลืมเพิ่มอุปกรณ์เสริมที่มีสีชมพูหรือสีแดงเพื่อกระตุ้นเรื่องความรัก และเคล็ดลับสำคัญ คือ พลังของเป็ดแมนดาริน ที่ควรจัดหามาวางให้อุ่นใจ เพราะเป็นสัญลักษณ์เรื่องความรักขั้นสูงสุดในด้านฮวงจุ้ย   3.ใช้ม่านทึบ แสงที่ส่องเข้ามาเพียงเล็กน้อยก็รบกวนการนอนหลับของเราได้แล้ว ฉะนั้นถ้าไม่อยากนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ หรือไม่อยากตื่นเช้าเกินความจำเป็น ลองหาม่านสีทึบมาปิดดู รับรองช่วยป้องกันแสงต่าง ๆ ได้ดี ส่วนถ้าวันไหนอยากให้มีแสงสาดส่องเข้ามาหน่อย ก็แค่เปิดม่านออกหรือไม่ก็ใช้ม่านแบบผ้า 2 ชั้นก็ได้ […]

How to ทำอย่างไรให้สูงขึ้น

How to ทำอย่างไรให้สูงขึ้น

  เชื่อว่าใครๆ ก็อยากเกิดมามีรูปร่างสูงโปร่ง ดูดีกันทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเกิดมาสูงใช่ไหมล่ะ วันนี้เราจึงขอนำเสนอ How to ทำอย่างไรให้สูงขึ้น จากแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้ ไปดูกันดีกว่าค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้าง   1.กระโดดเชือก เล่นบาสเก็ตบอล   กระโดดเชือกวันละ 30 นาที  โดยแบ่งเป็นครั้งละ 5 นาที แล้วพัก แต่ไม่รวมเวลาพัก และต้องทำให้ได้ไม่ต่ำกว่า 30 นาที หรือมากกว่านั้น  ส่วนการเล่นบาสเก็ตบอล  เล่นวันละ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยค่ะ   2.ดื่มนมวันละ 2 แก้ว การดื่มนมวันละ 2 แก้ว หลังอาหารเช้า และก่อนนอน จะเป็นการช่วยเร่งให้เกิดการเจริญเติบโตและเพิ่มความแข็งแรงของกระดูก แต่ควรเลือกนมจืด หรือนมที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล   3.รับประทานอาหารที่มีแคลเซียม อาหารจำพวก ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง เต้าหู้แข็ง ผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ตำลึง ผักกาดเขียว เป็นแหล่งแคลเซียม หากรับประทานทุกวัน รับรองกระดูกของคุณจะแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน    4.งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ […]

How to แต่งตัวไปสัมภาษณ์งาน

How to แต่งตัวไปสัมภาษณ์งาน

  ใครว่าการแต่งกายไปสัมภาษณ์งานไม่สำคัญ บอกเลยว่าแต่งตัวดี มีชัย ไปกว่าครึ่ง ในเรื่องของการแต่งตัวคือ First Impression หรือ ความประทับใจแรกพบที่เกิดขึ้นระหว่าง HR และผู้มาสัมภาษณ์ เพราะนอกจากกริยาท่าทาง และมารยาทแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเรามีความละเอียดและใส่ใจมากน้อยก็คือ การแต่งกายนั้นเอง ด้วยเหตุนี้เรา จึงนำ How to แต่งตัวไปสัมภาษณ์งานมาฝากทุกคนค่ะ ซึ่งจะเป็นเทคนิคที่สามารถใช้ได้ทั้ง ผู้ชาย และ ผู้หญิง เพื่อให้ทุกคนสามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการเลือกเครื่องแต่งกายที่เหมาะสมนั่นเองค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเราไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง 1.แต่งกายสุภาพ การแต่งกายสุภาพเป็นการแสดงออกถึงมารยาทพื้นฐานในการสมัครงาน และเสริมความน่าเชื่อถือให้กับผู้สมัคร การแต่งกายให้สุภาพจึงเป็นสิ่งที่ผู้สมัครคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเสมอ  สำหรับผู้หญิง – ผู้หญิงสามารถใส่ได้หลากหลาย ทั้งการจับคู่เสื้อกับกระโปรงหรือกางเกงขายาว หรือจะใส่เดรสก็ได้ สำหรับการใส่สูทก็ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับผู้สมัครว่าอยากได้ลุคที่ดูภูมิฐานมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการแต่งกายที่เปิดเผยจนเกินไปเพราะจะเป็นการแต่งกายที่ไม่เหมาะ ไม่ถูกกาลเทศะ โดยไม่ควรใส่กางเกงขาสั้น หรือกระโปรงที่สั้นมากจนเกินไป หากใส่สายเดี่ยวควรมีเบลเซอร์หรือสูทคลุมทับเสมอ และไม่ควรแต่งกายลำลองจนเกินไป เช่น การใส่เสื้อยืด ใส่เสื้อลายการ์ตูน สีที่ใช้ควรเป็นสีที่ไม่ฉูดฉาด สำหรับรองเท้าสามารถใส่ได้ทั้งส้นสูงและส้นแบนแต่ควรเป็นรองเท้าหุ้มส้น สำหรับผู้ชาย – สำหรับผู้ชาย การแต่งกายพื้นฐานจะเป็น เสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงสแล็ค เข็มขัด […]