ไม่มีใครในโลกที่ไม่โดนนินทาหรือว่าร้ายต่อหน้าต่อตาและลับหลัง เช่นเดียวกันกับที่มักจะเจอคำกล่าวว่า “มีคนรักก็ย่อมมีคนเกลียดเป็นธรรมดา” ทุกคนย่อมต้องเคยมีประสบการณ์ในการถูกคนอื่นพูดจาไม่ดีที่ทำให้รู้สึกเสียใจ ผิดหวัง และหดหู่ แต่ในเมื่อคุณไม่ได้เป็นอย่างที่เขาพูดก็ไม่จำเป็นต้องหวั่นไหว แม้บางทีมันจะยาก ด้วยความรู้สึกที่หลากหลายย่อมเป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าเราคือมนุษย์คนหนึ่ง แต่วันนี้เราก็พอจะมีทริกเล็กน้อยที่อาจจะช่วยคุณไม่ให้หวั่นไหวต่อคำพูดคนอื่นได้บ้าง
มั่นใจในตัวเอง
เมื่อคุณรู้ว่าตัวเองไม่ได้มีนิสัยหรือเป็นคนอย่างที่พวกเขากล่าวกันก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไปคิดแต่อย่างใด เพราะเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้คนเกิดความหวั่นไหวต่อคำพูดก็เพราะความกลัวในมุมมองของคนอื่นที่จะมองเราผิดไปจนไม่อยากคบกับเราอีกก็เท่านั้นเอง คุณก็แค่ยิ้มกว้าง ๆ และบอกเขาไปว่าคุณเป็นคนอย่างไร แล้วเพราะอะไรจึงทำให้เขาคิดว่าคุณเป็นคนเช่นนั้น หากเหตุผลที่เขาบอกคุณมามันไม่สมเหตุสมผล คุณก็แค่บอกทิ้งท้ายว่า “ลองคิดดูว่าแค่นี้ก็สามารถมองคนออกแล้วหรือ?”
หลังจากนั้นก็แค่เดินจากไปแบบสวย ๆ เราคือเรา หากเขายังคิดอยู่ก็ช่างเขา เราทำสิ่งที่ถูกต้องให้ดีที่สุดก็พอ สักวันเขาก็จะเห็นความดีของเราเอง แต่ถ้าเขาไม่เห็นนั่นเรียกว่า “อคติ”แล้ว จะทำอะไรก็คงไม่ได้ เลือกที่จะไม่สนใจเป็นที่สุด แม้แต่กรณีที่บางคนมาบอกคุณว่าคนที่คุณสนิทด้วยเป็นคนที่นิสัยไม่ดีนักก็ควรเชื่อในความรู้สึกของคุณเองมากกว่าฟังจากคนอื่น
บอกข้อเสียของผู้พูดให้เขารู้
นอกจากเลือกที่จะไม่ฟังเพราะคำพูดนั้นไม่ใช่ความจริง แต่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้คุณเกิดหวั่นไหวในคำพูดแล้ว คุณก็ควรตอกอีกฝ่ายให้รู้เสียบ้างว่าหากยังไม่ได้รู้เรื่องของตัวคุณหรือคนอื่น ๆ จริงก็อย่าเอามาพูดแบบนี้ เพราะนอกจากจะทำอะไรไม่ได้แล้ว ยังทำให้ตัวเขาถูกมองแบบแย่ ๆ อีกนะ แน่นอนว่าเป็นใครก็ต้องหน้าหงายเป็นธรรมดา คนแบบนี้บางทีก็ต้องทำให้ได้รับบทเรียนเสียบ้าง จะได้ไม่ต้องไปพูดให้คนอื่นรู้สึกแย่อีก
ฟังหูไว้หู
เมื่อมีคนมาพูดในสิ่งที่ทำให้คุณเกิดความหวั่นไหว อีกหนึ่งทางเลือกก็คือการฟังหูไว้หู หากเป็นเรื่องของเราและมีบางมุมที่ส่อไปในทางนั้นจริงก็อาจมีการขอบคุณและนำคำพูดของคนคนนั้นกลับไปคิดว่าคุณมีส่วนที่เป็นดังคำกล่าวจริงหรือไม่ หากเป็นไปตามนั้นจริงก็ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อไม่ให้คนอื่น ๆ เข้าใจผิดตาม แต่หากไม่เป็นเช่นนั้นก็แค่ปล่อยไป ไม่ว่าอย่างไรเราก็ห้ามความรู้สึกคนไม่ได้ จะให้แก้จุดไหนล่ะ ก็ฉันไม่ได้ทำอะไรที่ไปขัดใจคนอื่นจริงนี่นะ
และหากเป็นกรณีที่มีคนมาพูดถึงเรื่องของคนอื่นให้คุณฟัง คุณก็อาจรับฟังพอเป็นพิธีเพื่อให้ระวังตัว แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นให้คนที่เป็นหัวข้อบทสนทนาคนนั้นเข้ามาในชีวิตตัวเอง เพราะถึงอย่างไร การเรียนรู้จากความใกล้ชิตก็ย่อมดีกว่าฟังจากวาจาผู้อื่นอยู่แล้ว
มีคนตายทั้งเป็นเพราะการหวั่นไหวในคำพูดของคนอื่นมานักต่อนักแล้ว แต่เราต้องไม่ใช่หนึ่งในนั้น เราจะผ่านคำพูดของคนเหล่านั้นไปได้ด้วยความแข็งแกร่งและอุดมคติของเราเอง
รูปภาพประกอบ : Pixabay
#เคล็ดลับต่างๆ #ไอเดียสุดเจ๋ง #ทริคในชีวิตประจำวัน #HowToไม่หวั่นไหวต่อคำพูดผู้อื่น