การที่ใครสักคนจะก้าวขึ้นไปสู่บทบาทของนักพูดที่เก่งเต็มเปี่ยมด้วยความสามารถได้นั้น แน่นอนว่ามันไม่จำเป็นจะต้องอาศัยเพียงแค่ “พรสวรรค์” ซึ่งคำนี้ก็ให้กรอบจำกัดความสามารถและขีดเส้นใต้คำว่าเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่ไม่มีมันไปเยอะมาก คำนี้เองที่ทำให้คนที่ไม่ได้เก่งอย่างโดดเด่นตั้งแต่แรกรู้สึกอยากถอดใจและไปทำอะไรที่มันใกล้เคียงกับคำว่า “เป็นไปได้” ให้มากขึ้นหน่อย แต่วันนี้เราจะพาทุกคนที่มีใจรักในการพูดได้มาสัมผัสกับความจริงที่ว่า หากอยากเป็นคนพูดเก่ง ใช้แค่พรแสวงและความตั้งใจจริง ก็สามารถเป็นบันไดส่งคุณให้ถึงฝั่งฝันได้เช่นเดียวกัน ซึ่งเราได้สรุปออกมาเป็นข้อสั้น ๆ รับรองว่าไม่ว่าใครก็สามารถทำให้เกิดผลสำเร็จได้ หากการพูดที่เก่งและดีคือสิ่งที่คุณต้องการอย่างแท้จริง
1. คุณต้องตามหาไอดอลด้านการพูดของตัวเองให้เจอ
ข้อนี้สำคัญมาก เมื่อเราปักธงไว้ที่ความชอบก่อนก็จะทำให้คุณไม่รู้สึกว่าการฝึกฝนในครั้งนี้มันยากลำบากมากเกินไป นักพูดในดวงใจที่คุณรู้สึกว่าพวกเขาน่าทึ่งอาจจะไม่ต้องเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านการพูดที่ใคร ๆ ก็พูดถึงก็ได้นะ ขอแค่คุณรู้สึกชอบการพูดของเขาก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากแล้วล่ะ ขอยกตัวอย่างนักพูดที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครหลายคนหันมาพัฒนาตัวเองอย่าง “ครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ” ครูและแอกติ้งโค้ชชื่อดังของเมื่องไทยที่เราจะเห็นทันทีว่าเธอเป็นคนที่มีเสน่ห์และน่าจับตามองในทุกอริยาบถขณะที่พูด พร้อมกับการใช้น้ำเสียงที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกคล้อยตาม เป็นต้น
2. ศึกษาวิธีการใช้น้ำเสียง อารมณ์ และการออกอาการของบุคคลตัวอย่างที่เราเลือกในข้อแรกอย่างละเอียด
ข้อนี้เป็นหัวใจหลักของการฝึกเลยก็ว่าได้ แต่ขอเตือนว่าคุณจะต้องมีความเป็นกลางและละวางอคติของตนลงไปก่อนในการศึกษาการพูดของผู้อื่น เมื่อทำเช่นนี้ได้คุณจะเห็นเลยว่านักพูดแต่ละคนมีวิธีการพูดที่เป็นเอกลักษณ์อย่างไร ที่สำคัญที่สุดให้คุณพยายามตีความการเลือกใช้น้ำเสียง การถ่ายทอดอารมณ์ และอาการที่บุคคลเหล่านั้นเลือกสำหรับการเล่าแต่ละประเภท อาทิเช่น การเลือกใช้น้ำเสียงสั่นเครือฟังแล้วคล้ายเสียงเกือบจะร้องไห้ในเรื่องที่เศร้า มันจะช่วยให้ผู้ฟังอินไปกับเรื่องที่นักพูดถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
3. ศึกษาการเตรียมเนื้อหาที่แตกต่างกัน พร้อมที่จะลงมือทำงานของตนเอง
นอกจากเทคนิคการเล่าเรื่องแล้ว สิ่งที่จะทำให้เรากลายเป็นนักพูดที่จับใจผู้ฟังคนอื่นแล้วล่ะก็คงหนีไม่พ้น “คอนเทนต์” หรือ “เนื้อหา” ที่จะพูดออกมา ควรเป็นเนื้อหาที่สามารถช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อคนหมู่มากเป็นสำคัญ ไม่จำเป็นต้องเป็นสาระทางวิชาการที่คุณไม่ถนัด แม้แต่มุกตลกขำขันจากเรื่องราวในชีวิตประจำวันก็ก่อให้เกิดเสียงหัวเราะอันมีค่าได้อย่างเสมอกัน
#เคล็ดลับต่างๆ #ไอเดียสุดเจ๋ง #คนพูดเก่งจับใจคนหมู่มาก