มาแล้ว เอาใจสาวหวานที่ชื่นชอบการทานขนมไทย อย่างข้าวเหนียวมะม่วงขนมไทยที่ยอดนิยม แต่ก็แอบกลัวว่าจะทำร้ายหุ่นสวย ๆ ของสาว ๆ ก็เพราะ ข้าวเหนียวมะม่วงแคลอรีดูท่าจะไม่น้อย แต่ของอร่อยสุดฟินในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ไม่กินก็แสนจะเสียดาย ดังนั้นจะกินข้าวเหนียวมะม่วงไม่ให้อ้วน ไม่เสี่ยงต่อสุขภาพก็ควรมีเคล็ดลับสักหน่อย
นอกจากนี้ในฤดูร้อนยังมีของอร่อยให้กินหลายเมนู โดยเฉพาะเมนูมะม่วงทั้งสุกและมะม่วงมัน แต่ที่น่ากินมาก ๆ และต้องจัดกันทุกปีคงเป็นเมนูข้าวเหนียวมะม่วงแน่ ๆ ใช่ไหม แต่ข้าวเหนียวมูน+มะม่วงสุก ดูเป็นอาหารแคลอรีสูงและไขมันสูง ทีนี้ถ้าอยากกินข้าวเหนียวมะม่วงแบบไม่อ้วน
เคล็ดลับการกินข้าวเหนียวมะม่วงอย่างไรไม่ให้อ้วน
กินข้าวเหนียวมะม่วง ของโปรดให้สบายใจ ด้วยการกินมะม่วงมากกว่าข้าวเหนียว กินมะม่วงสุกครึ่งลูก (ขนาดกลาง) จะได้พลังงานประมาณ 70 กิโลแคลอรี ส่วนข้าวเหนียวมูนให้กิน 100 กรัม หรือ 1 ขีด จะให้พลังงาน 280 กิโลแคลอรี เมื่อรวมกันแล้วจะเท่ากับ 350 กิโลแคลอรี
ซึ่งเทียบเท่ากับแคลอรีที่ได้จากอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดหรืออาหารที่เด็กวัยรุ่นที่นิยมกินกันหลาย ๆ ชนิด เช่น โดนัทเคลือบคาราเมล พิซซ่า และแฮมเบอร์เกอร์ ของพวกนี้ก็ให้พลังงานประมาณ 350 กิโลแคลอรี แต่ข้าวเหนียวมะม่วงมีคุณค่าทางโภชนาการและเชิงอาหารเพื่อสุขภาพมากกว่า
กินข้าวเหนียวมะม่วงช่วงเวลากลางวัน กลางวันเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายต้องใช้พลังงานทำกิจกรรมต่าง ๆ ดังนั้นเราจะมีเวลาเผาผลาญพลังงานจากข้าวเหนียวมะม่วงได้บ้าง แต่หากกินข้าวเหนียวมะม่วงมื้อเย็น พลังงานจากข้าวเหนียวมะม่วงที่ร่างกายได้รับเข้าไปอาจเผาผลาญและนำไปใช้ไม่หมด เกิดเป็นไขมันสะสมตามร่างกายได้
แต่การกินก็ต้องรู้ว่ากินได้ปริมาณแค่ไหน เพราะหากกินมากเกินไป ก็ไม่มีทางที่จะหลีกหนีความอ้วนไปได้แน่นอน ดังนั้นควรกินข้าวเหนียวมะม่วง สัปดาห์ละไม่เกิน 3 ครั้ง เพราะข้าวเหนียวมะม่วงเป็นอาหารที่มีทั้งน้ำตาลและไขมันปริมาณที่ค่อนข้างสูง กินมากเกินพอดีอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพได้หลายด้าน และสำหรับคนที่มีโรคประจำตัว ก็ควรลดปริมาณข้าวเหนียวลงให้เหลือสักครึ่งขีด และลดความถี่ลงเป็นกินข้าวเหนียวมะม่วงสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็พอ
(ขอบคุณภาพประกอบ : https://www.gangbeauty.com/)
#ข้าวเหนียวมะม่วง #เคล็ดลับต่างๆ #ไอเดียสุดเจ๋ง