การลดความอ้วน หรือการลดพุงนั้นไม่ยากหากมีการออกกำลังร่วมด้วย ผู้เขียนจะนำเสนอวิธีการออกกำลังที่เหมาะสม โดยใช้หลักการเผาผลาญไขมันจากการใช้พลังงานของร่างกาย หลักการลดน้ำหนักนั้นง่ายมากคือกินให้น้อยลง ใช้ให้มากขึ้น
แต่การกินให้น้อยลงวันละ 250 กิโลแคลอรี
และออกกำลังหรือทำกิจกรรมเพิ่มขึ้นจากเดิมวันละ250 กิโลแคลอรี รวมเป็น 500 กิโลแคลอรี เท่ากับใช้ไขมันไป 500/9 = 55 กรัม
ไขมัน 1 กรัมให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรีหรือประมาณครึ่งขีด 1 ขีด = 100กรัม ถ้าทำต่อเนื่อง 20 วันจะลดได้ 1 กิโลกรัม 60วันหรือ 3 เดือนจะลดได้ 3 กิโลกรัม
ออกกำลังร่วมกับลดการกินจะดีกว่าการลดอาหารอย่างเดียว ซึ่งต้องทนหิวและทรมานตัวเองมากไป
แค่ขยับร่างกาย ก็การลดความอ้วนได้
การเดินเร็วเป็นวิธีที่เหมาะสม และง่ายที่สุดสำหรับผู้ที่จะการลดความอ้วน เพราะใช้เวลาไม่มากเกินไป 30 – 45 นาที ไม่ยุ่งยากมีเพียงรองเท้าผ้าใบส้นหนาๆ เพื่อลดแรงกระแทกสักคู่หนึ่งก็พอ ผู้ที่ไม่ชอบออกกำลังแบบเดียว อาจออกกำลังหลายแบบสลับวัน เช่น ว่ายน้ำวันอาทิตย์ วันจันทร์เดินเร็ว แอโรบิกวันอังคาร เป็นต้น ขอให้ออกแรงใช้พลังงานวันละ ๒๕๐ กิโลแคลอรีก็พอแล้ว ที่สำคัญคือควรจะทำทุกวันให้สม่ำเสมอเป็นนิสัย ในช่วงแรกอาจจะยาก ปวดเมื่อยในวันรุ่งขึ้นบ้าง ขี้เกียจบ้าง ต้องทน เมื่อพ้น ๒-๓ สัปดาห์ไปแล้วน้ำหนักจะลดลงประมาณ ๑/๒-๑ กิโลกรัม จะมีกำลังใจมากขึ้น และออกกำลังได้ทุกวันจนเป็นนิสัย ผู้ที่มีเครื่องออกกำลังที่บ้าน เช่น ลู่วิ่ง จักรยานอยู่กับที่ การออกกำลังเพื่อลดอ้วนยิ่งง่าย เพราะไม่ต้องคำนวณสูตรข้างต้นให้ยุ่งยากเครื่องออกกำลังส่วนใหญ่จะคำนวณแคลอรีที่ใช้ให้ ที่สำคัญคือต้องใส่ข้อมูลน้ำหนักตัว ให้เครื่องคำนวณแคลอรีด้วย เลิกเอาเครื่องออกกำลังเป็นราวตากผ้าเสียที
นอกจากการออกกำลังเพื่อใช้พลังงานแล้ว ผู้ที่จะการลดความอ้วน ควรเคลื่อนไหวร่างกายให้มากขึ้นด้วยการทำกิจกรรมเสริม ใช้พลังงานในแต่ละวันเพิ่มขึ้น กิจกรรมเสริมนี้อาจจะเป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิตประจำวัน เช่น การจอดรถให้ห่างจากสถานที่ทำงาน การเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์ การขี่จักรยานหรือเดินไปตามสถานที่ต่าง ๆ แทนการใช้รถ การทำสวน ล้างรถ ทำงานบ้าน ฯลฯ พลังงานที่ใช้ในกิจกรรมเหล่านี้จะสะสมได้ แต่มักจะไม่ถึงเป้าคือ 250 กิโลแคลอรี แต่เป็นการเสริมการใช้พลังงานของร่างกายทำให้การลดความอ้วน ลดลงเร็วขึ้น
#การลดความอ้วน #ลดความอ้วน #เคล็ดลับต่างๆ